พลังเหนือโลก 1 (คำสอนพระอาจารย์ธรรมบาล 17 กุมภาพันธ์ 2558)


:::: ตัวอย่าง ผู้ที่ฝึกการปฏิบัติ โดยศึกษา ทดลอง และลงมือปฏิบัติ จากหนังสือ โดยไม่มีครู,  ผู้รู้ ที่คอยแนะนำ อบรมช่วยสอน แต่อย่างใด  :::

          ณ หมู่บ้านเล็กๆ ที่เล็กมากๆ จนไม่ปรากฏบนแผนที่โลก มีชื่อว่าGoraKalwaria อันเป็นชนบทชายแดน ที่ห่างไกล และหนาวเหน็บด้วยหิมะ ของประเทศโปแลนด์ติดกับรัสเซีย 





                  ในบ้านชาวยิวที่ยากจนค่นแค้นหลังหนึ่ง หญิงครรภ์แก่ใกล้คลอดได้ออกไปเก็บฟืนในป่า วันนั้นเป็นเช้าของวันที่ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2442 เธอได้ลื่นล้มตกลงไปในหุบผา ด้วยแรงกระแทกที่ตกจากที่สูง เธอได้ให้กำเหนิดทารกเด็กชายผู้หนึ่ง ในขณะนั้น 

                    เธอนอนอยู่ก้นหุบเหว  จากเช้าเป็นเที่ยง  จากเที่ยงเป็นบ่าย จากบ่ายเป็นเย็นค่ำ และดึก เวลาผ่านไปท่ามกลางความหนาวเหน็บยามค่ำคืน  ฝูงหมาป่า ได้กลิ่นคาวเลือดจากทีคลอดทารก พากันส่งเสียงเห่าหอน และเวียนมาเป็นฝูง ล้อมรอบเธอกับลูกน้อย 

                     ด้วยสัญชาติญาณของมารดา เธอกอดลูกน้อยที่เพิ่งคลอดไว้กับอก เพื่อปกป้องอันตราย และความหนาวเหน็บ  เธอก้มลงจูบที่หน้าผากทารกน้อยที่ห่อไว้ด้วยผ้าคลุมผมของเธอ  รอคอยความหวังที่จะมีใครสักคนมาช่วยเหลือ ใช่... เธอได้แต่เพียง "หวัง".... เพราะ ความหวัง เป็นสิ่งหนึ่งที่ให้มนุษย์มีพลังกระตุ้นให้ "อยู่รอด" เธอส่งเสียงตะโกน ต่อเนื่อง... ไม่หยุด ...เผื่อว่า... จะมีใครสักคน ได้ยินเสียงของเธอ เพื่อที่จะช่วยให้ ลูกน้อยที่เพิ่งคลอดของเธอ มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย....

                      เวลาผ่านไปจนถึงเช้า สามีของเธอ ได้ออกติดตาม จนกระทั่งได้ยินเสียงแว่ว ๆ จากก้นหุบเหว เขาจึงไต่ลงไปพบภรรยา ที่กำลังอิดโรย แต่ปากของเธอยังคงส่งเสียง " โวล์ฟ (Wolf หมาป่า)...โวล์ฟ (Wolf หมาป่า)...โวล์ฟ (Wolf หมาป่า)..." ไม่ขาดปาก และเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นมา จึงได้พบว่า ที่อกของเธอแนบไว้ด้วยร่างทารกน้อยแรกเกิด ทายาทคนแรกของเขา 

                       ทารกน้อย จึงได้ชื่อว่า "โวล์ฟ"...และภายหลังจากที่เธอถูกช่วยเหลือจากหุบเหวได้ 3 วัน  มารดาของโวล์ฟก็ลาโลกไป 



                 บิดาของโวล์์ฟ เป็นภารโรงในโบสถ์ยิวในหมู่บ้านนั้น  ทำให้ภายในบ้านมีแต่คัมภีร์-คำสอนศาสนาต่าง ๆที่ทางโบสถ์ทิ้งแล้ว และบิดาของเขาเก็บเอามากองสุมไว้เพื่อใช้เผาไฟให้ความอบอุ่นแทนถ่านหินในหน้าหนาว โวล์ฟถือกำเนิดและถูกเลี้ยงดูจนโตภายในกองหนังสือนั้น บิดาเขาก็อาศัยหนังสือต่าง ๆ นั้นสอนอ่าน-เขียนให้กับโวล์ฟด้วยเหตุนี้ทำให้เพียงอายุ 6 ขวบเขาก็สามารถอ่านและท่องตำราโบราณเหล่านั้นได้หลายสิบเล่ม





     ด้วยความยากจนบิดาของเขาจึงนำเขาไปยกให้เป็นเด็กรับใช้ในโบสถ์ยิวประจำหมู่บ้านแต่โวล์ฟไม่มีนิสัยที่จะชื่นชอบ หรือเอียงไปในความเชื่อต่อศาสนายูดายแต่อย่างใดในโอกาสที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับนักบวช เขาได้ถูกใช้ให้ดูแลทำความสะอาดและจัดหนังสือในห้องสมุด จึงทำให้เขาได้ศึกษาเรียนรู้ศาสนา-ปรัชญาบูรพาทิศรวมทั้งวิธีปฏิบัติของเหล่าโยคีในชมพูทวีป
                ด้วยความเป็นเด็กที่อยากรู้ อยากลอง จึงเป็นแรงกระตุ้นให้โวล์ฟแอบทดลองทำสมาธิตามแบบโยคีที่เขาได้ศึกษาในหนังสือจากห้องสมุดอย่างเอาจริงเอาจังในขณะที่มีโอกาสว่างทุกวัน ซึ่งการกระทำเช่นนั้นถือว่าละเมิดกฏข้อห้ามเป็นความผิดร้ายแรงของศาสนายูดาย และแล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกนักบวชยูดายจับได้จึงสั่งลงโทษหนัก โดยการเฆี่ยนและขังเดี่ยว ขณะนั้น โวล์ฟ มีอายุได้เพียง 11 ปี
     
        เมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งต่อไป โวล์ฟ ได้ละเมิดกฏร้ายแรงของโบสถ์ยูดายอีก โดยแอบศึกษาปรัชญา-บูรพาทิศและปฏิบัติสมาธิทั้งที่ถูกห้ามและลงโทษแล้ว แต่ครั้งนี้ โวล์ฟได้ปะทะคารมกับนักบวชยูดาย ด้วยหลักศาสนา-ปรัชญาบูรพาทิศ 

              จากเหตุโต้คารมนี้ทำให้โวล์ฟ ต้องได้รับการลงโทษที่รุนแรงกว่าเดิม ซึ่งเป็นความผิดที่เกินกว่าอำนาจของนักบวชประจำโบสถ์ต้องให้คณะนักบวชระดับสูงออกคำสั่งลงมาว่าจะลงโทษโวล์ฟ อย่างไรจึงให้เอาตัวไปขังไว้ในห้องใต้ดินของโบสถ์ก่อน ที่จะนำตัวมาตัดสินลงโทษเด็ดขาดต่อไป   


 โวล์ฟได้ตัดสินใจหนีในคืนแรกที่ถูกขังในห้องใต้ดินของโบสถ์ยิว  ออกไปสู้ชีวิตในโลกกว้างเพียงผู้เดียวด้วยอายุเพิ่งเริ่ม 11 ปี โดยมีเงินติดตัวเพียง 18 เซ็นโปแลนด์(ประมาณ 3 บาทไทย) เท่านั้น





เด็กน้อย โวล์ฟ  จะมีชีวิตรอดในโลกอันสับสนได้หรือไม่ติดตาม ตอนต่อไป ในวันพรุ่งนี้ ....




ขอความผาสุขสวัสดี มีโชคชัย ก้าวหน้าในการปฏิบัติ ปราถนาสิ่งใดจงได้ดั่ง "ใจ" อธิษฐานอันเป็นกุศลเทอญ....เจริญพร

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS