สติปัฎฐาน กับ การสื่อสารทางโมเลกุล (Molecular Communication VS Satipatana)

ตอนนี้กำลังเตรียมข้อมูลเพื่อบรรยาย ที่คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 

    ขณะทำKeynote ใจก็เกิดปรารภถึงสาธุชน ที่ไม่ได้มาฟังบรรยาย ก็เลยเขียนบทความธรรมะ ให้ทุกท่านได้เอาไปศึกษาค้นคว้า และเป็นกำลังใจส่งเสริมให้มุ่งปฏิบัติสืบไป




"มโนบุพฺพํ คมา ธมฺมา สิ่งทั้งหลาย ย่อมสำเร็จได้ด้วยใจ" พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจน ดังนั้นเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ หากไม่รู้ที่ตั้งของใจ ชาตินี้ตั้งแต่เกิดจนตาย จะทำอะไรก็ไม่มีวันสำเร็จ 

      การที่ใช้ "ใจ" ในการระลึกรู้อารมณ์ ที่เรียกว่า "สติ" ซึ่งเป็นการสั่งการที่หูคนไม่ได้ยิน แต่ที่เราสามารถรับรู้และได้ยิน ในทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า "การสื่อสารทางโมเลกุล" ซึ่งพระพุทธองค์ทรงถ่ายทอด สั่งสอนให้แก่พุทธบริษัท ก่อนหน้าที่มนุษย์จะค้นพบถึงเกือบ 3,000ปี 

ปัจจุบัน พศ.2560 นักวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจสร้างเครื่องมือสื่อสารทางโมเลกุลได้เทียบเท่ากับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" ที่ผู้ปฏิบัติสามารถควบคุม บังคับทั้งสรีระของตนเอง ผู้อื่น หรือแม้แต่เชื่อมการสื่อสาร พลังงาน ของโมเลกุลในร่างกาย ให้ทำงานสอดประสาน เป็นหนึ่งเดียวกับพลังธรรมชาติ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด 




    จะเรียกว่าเป็นการใช้ความสามารถในการสื่อสารของโมเลกุล ให้เป็นเครื่องจักรชีวภาพขนาดเล็กระดับนาโน(bio-nanomachine) เช่น เซลล์ประดิษฐ์ประเภท artificial cellหรือเซลล์ที่มีการดัดแปลงทางพันธุวิศวกรรม โดยเฉพาะการสื่อสารกับระบบทางชีวภาพอื่นๆ ในระดับโมเลกุล เพื่อทำหน้าที่ต่างๆ ทำให้เกิดการใช้งานในอนาคตขึ้น เช่น การมอนิเตอร์ร่างกายมนุษย์ การผลิตเนื้อเยื่อและอวัยวะใหม่และการอินเตอร์เฟสของอุปกรณ์ประดิษฐ์เข้ากับระบบประสาท






จากมุมมองของทฤษฎีการสื่อสาร การสื่อสารทางโมเลกุล (molecular communications) เป็นรูปแบบใหม่ที่เครื่องจักรทางชีวภาพระดับนาโนที่ผ่านการประดิษฐ์ทางวิศวกรรม (engineered biological nanomachine) จะสื่อสารกับเครื่องจักรทางชีวภาพระดับนาโนจากธรรมชาติ เพื่อจะทำงานร่วมกันเป็นระบบทางชีวภาพ ข้อแตกต่างที่สำคัญจากการสื่อสารแบบเดิม คือ การสื่อสารแบบโมเลกุลจะใช้โมเลกุลเป็นพาหะของข้อมูล โดยตัวส่งที่เป็น sender bio-nanomachineจะเข้ารหัสข้อมูลบนโมเลกุล และปล่อยโมเลกุลออกไปสิ่งที่อยู่โดยรอบ อันถูกกำหนดเป้าประสงค์ ซึ่งโมเลกุลจะเดินทางแทรกเข้าไปยังโมเลกุลอื่น ที่แปรสภาพเป็นเครื่องรับ receiverbio-nanomachine โดยที่เครื่องรับจะทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีกับโมเลกุลเพื่อถอดรหัสข้อมูลออกมา (ในปัจจุบัน การวิจัยด้านการสื่อสารทางโมเลกุลทั่วทั้งโลกจะจำกัดอยู่ที่เครือข่ายของ bio-nanomachineขนาดเล็ก) แต่ในแนวแห่งพุทธวิถี "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" สามารถควบคุมทุกสรรพสิ่ง แม้แต่ เวลา(time) สถานที่(space) ซึ่งเป็นสิ่งปกติของผู้ปฏิบัติเรียกว่า "อกาลิโก" การกำหนด บังคับ ควบคุมโมเลกุล ผู้ที่ฝึกฝนแค่ขั้นต้น ก็สามารถควบคุม และสื่อสารทางโมเลกุลได้แล้ว เรียกว่า "ขั้นปริต" ซึ่งมีผลให้สามารถกำหนดเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นได้ตามปรารถนา 

      ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้สาธุชนผู้ปฏิบัติชอบใน "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" ซึ่ง
พระพุทธองค์ทรงตรัสรับรองว่า "เอกมคฺโค....เป็นหนทางหนึ่งเดียว ไม่มีอื่น..." นั้น ได้ภาคภูมิใจ ที่ได้ศึกษาปฏิบัติเป็นวิทยาการที่ล้ำยุคเกินบรรยาย ที่แม้แต่สมัยปัจจุบันที่ว่าก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก็ยังก้าวไปไม่ถึงแม้แค่ขอบ...


       ขอความผาสุขสวัสดี มีโชคชัย สมปรารถนา ก้าวหน้าเจริญในธรรมะปฏิบัติ จงบังเกิดมีแก่สาธุชนผู้ปฏิบัติชอบทุกท่าน ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย ถ้วนทั่วกันทุกท่าน เทอญ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น: