Pages - Menu

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Crack RNA Code By Meditation / 4 (คำสอนพระอาจารย์ธรรมบาล 5 มิถุนายน 2558)






ดังได้กล่าวไปแล้วว่า RNA จะปฏิบัติการถ่ายแบบ-ถอดรหัสจาก DNA เมื่อได้รับการสั่นสะเทือน(Vibration) จากคลื่นElectro-Magnetic ซึ่งจะเกิดได้ทั้งจากภายในร่างกายและภายนอกร่างกาย





โลกจัดว่าเป็นแหล่งของสนามพลังแม่เหล็กที่ใหญ่ที่สุด และส่งผลต่อRNA ของมนุษย์มากที่สุด ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อเราไปในสถานที่แตกต่างกัน เราจะเกิด "อารมณ์ และ ความรู้สึก" ที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่ละ "เรา" จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นั้นๆ ไปโดยปริยาย(โดยปกติ)


คำถามคือ มันเกิด "อารมณ์และความรู้สึกร่วม" ขึ้นมาได้อย่างไร ? 





อารมณ์และความรู้สึก ไม่ว่า จะเป็นการเห็น รับรู้ สัมผัส ฯลฯ เกิดจาการกระบวนการทำงานสังเคราะห์โปรตีน-ฮอร์โมนของ RNA ซึ่งได้รับกระแสจากคลื่นสนามแม่เหล็กโลก ที่ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือน(Vibration) ที่แตกต่างกันไปตามย่านความถี่(Frequencies) และความต่างศักย์ ซึ่งจะมีความเข้มแตกต่างกันไปตามพื้นที่ หรือสถานที่


กระแสคลื่นนี้แหละที่เป็นตัวกระตุ้นให้ RNA เริ่มกระบวนการผลิตโปรตีน-ฮอร์โมนออกมา เรียกว่า "อารมณ์ - ความรู้สึก" ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติทั่วไปของมนุษย์ เมื่อต้องการเปลี่ยนอารมณ์ ก็จะเปลี่ยนสถานที่ เช่น การพักผ่อนหย่อนใจ ชายทะเล หรือ สถานบันเทิง เข้าวัดปฏิบัติธรรม เป็นต้น




คำถามก็ตามมาอีกว่า "ทำไม อารมณ์ของเราจึงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะแวดล้อมนั้นๆ ได้"

ตามภาพด้านบน(ดูภาพประกอบ) จะเห็นได้ว่า ภายในร่างกายมนุษย์ก็มีสนามไฟฟ้าแม่เหล็กเหมือนกัน แต่เล็กจิ๊ดเดียวเมื่อเทียบกับโลก(ที่พึงสังเกตุคือ พลังกระแสคลื่นไฟฟ้า-แม่เหล็กโลก จะพุ่งออกมาจากขั้วใต้ไปสู่เหนือ ไม่ต่างจากขั้วใต้ของแม่เหล็กชีวภาคในตัวมนุษย์ ซึ่งอยู่ที่จุดกระดูกข้อสุดท้ายปลายกระดูกสันหลัง) 

ดัังนั้นเมื่อเข้าไปอยู่ในย่านความถี่ของสนามแม่เหล็กโลกที่มีความเข้มกว่า สนามแม่เหล็กชีวภาคในตัวมนุษย์ผู้นั้นจึงเปลี่ยนไปตาม เนื่องจาก  RNA ได้เข้าสู่กระบวนการ ส่งสัญญาณไฟฟ้า ถอดรหัส ให้เกิดการจัดเรียง "โมเลกุล" ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับย่านความถี่ ของสนามแม่เหล็ก(Electromagnetric Field) นั้น และ ตรงนี้แหละที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจน สำหรับโคคาวจร(ผู้ปฏิบัติ) และสัตปบุรุษว่า "ที่ใดไม่ควรเข้าไป = อโคจร" ก็ด้วยเหตุดังที่กล่าวข้างต้นนั้น


มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ และสามารถใข้เป็นคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์(แม่เหล็ก-ไฟฟ้า) ได้เป็นอย่างดี และสามารถทำความเข้าใจได้อย่างกระจ่างในพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรัสไว้ใน "มงคลสูตร" ข้อแรกว่า "อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร" ที่ทรงตรัสเช่นนั้นก็เพราะว่า "ความเข้มในสนามแม่เหล็กชีวภาคของคนเลว" จะมีความเข้ม(ลบ) สูง" ส่งผลให้คนประเภทนั้นมี "อารมณ์ร้าย" หฤโหด เป็นต้น เมื่อเข้าใกล้หรือคบหา กระแสคลื่นแม่เหล็กของคนชั่ว ก็จะถูกนำเข้าไปในRNA ทำกระบวนการปรับแต่งโมเลกุล ให้ละม้ายกับคนเลวนั้น เราจึงได้เห็นอยู่เสมอว่า "คนดีๆ ไปคบคนชั่วไม่นาน สันดานเปลี่ยน" ก็เพราะเหตุดังกล่าว 


      "อารมณ์" จัดว่า เป็น "อาหาร" ของชีวิต และสรรพสัตว์ หากจะถามว่า "ชีวิต เกิดมาทำไม ?" คำตอบคือ เกิดมาเพื่อแสวงหาอารมณ์ สนองชีวิต





                ในทางพระพุทธศาสนา อารมณ์ที่เรารับเข้ามาจากภายนอก จะมี 5 ทิศทาง เรียกว่า "ปัญจทวารวิถี"

การรับรู้สัมผัส ต่าง ๆ จริงแล้วไม่มีอยู่ดังได้อธิบายไปข้างต้น มันเป็นเพียง "สัญญานไฟฟ้า ที่ส่งไป" ทำให้เกิดปฏิกริยาทางเคมี ว่า "ชอบ หรือไม่ชอบ"

ในทางพระพุทธศาสนา "อารมณ์เกิดจาก การกระตุ้นของมหาภูรูป 4 " จำไว้ให้ดี ตรง 4 นี่แหละ(ไม่ใช่ให้หวยตัวเต็งนะ)






     การกระตุ้นมหาภูตรูป4 ทำให้เปิดกระแส ความรู้สึก ให้ไปดึงเอาข้อมูลใน "สัญญาเดิม" ออกมาเทียบ ว่า "ชอบ=นิฏฐารมย์ หรือ ไม่ชอบ =อนิฏฐารมย์" ซึ่งมีอยู่แล้วในสัญญา เอามาเทียบเคียง ถ้าไม่มีอยู่ ก็ไม่สนใจ กลายเป็น อุเบกขา

ถ้าเขียนเป็นรหัส ก็จะได้ว่า ชอบ = 1 ไม่ชอบ  = 0  อ่านแล้วคุ้นๆ เหมือนรหัสภาษา Computer ไม๊ล่ะ !!

   
ในทางพันธุกรรม ชอบหรือไม่ชอบ "อารมย์" ต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ใส่DNA เมื่อมีกระแสมากระทบ RNA จะไปค้นข้อมูล Copy ออกมาสั่งการ ซึ่ง จะเก็บไว้ใน 4 ส่วน เรียกว่า Base

     แต่ละส่วนBaseของDNA จะเก็บรหัสพันธุกรรม ข้อมูลแต่ละอย่าง และผันแปรได้ไร้ขีดจำกัด มหาภูตรูป4 ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน





นี่คือ ความล้ำยุคของวิทยาการที่พระพุทธองค์ทรงถ่ายทอดให้ไว้เมื่อ 2558 ปีมาแล้ว ฝรั่งเพิ่งรู้ไม่นานมานี้(Copyของพุทธไปรึเปล่าไม่รู้นะเนี่ยะ)


ในพระพุทธศาสนามีจารึกไว้ชัดเจนว่า "ชีวิต อกิดจากธาตุทั้ง4 ประชุมกันเป็นหนึ่งเดียว แยกไม่ได้(เอกสมังคี) 

    ซึ่งก็คือการประชุมกันโดยสายใยของDNA ที่เก็บรหัส พร้อมแปลให้เราเป็นอะไร หรือไม่เป็นอะไร นี่แหละจึงเรียกว่า สมมุติ





สำหรับวันนี้ ท่านสาธุชน คงถึง "บางอ้อ" กันบ้างแล้ว ในเรื่องการทำงานของRNA กับ หน้าที่ของ DNA

      ในตอนต่อไป เราจะมาศึกษาว่าจะสร้างคลื่น (Wave) ของสนามแม่เหล็กชีวภาค(Bio-Electromanetic)เกิดระดับความถี่(Frequencies)ที่สามารถมีแรงสั่นสะเทือน(Vibration) ให้ RNA ทำงานตามประสงค์ได้อย่างไร


ขออำนาจแห่งพุทธานุภาพ จงปกป้องคุ้มครอง ให้ทุกท่านปลอดภัย ได้สมปรารถนา ก้าวหน้าใน
กิจการงาน ทุกประการเทอญ




https://www.facebook.com/notes/922326184477508/






Crack RNA Code By Meditation / 5







สารบัญทั้งหมดจะอยู่ทางด้านขวามือของหน้า (ทุกหน้า)