Pages - Menu

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Crack RNA Code By Meditation / 3 (คำสอนพระอาจารย์ธรรมบาล 4 มิถุนายน 2558)






      ไม่ใช่เรื่อง่ายเลย ที่จะอธิบายขยายความให้ท่านทั้งหลายเข้าใจได้กระจ่างอย่างลึกซึ้ง เพราะจำกัดด้วยศัพท์และภาษา ที่ต้องนำมาใช้ร่วมสมัย ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาและค้นคว้าถึง บางอ้อได้ในยุคปัจจุบัน

      ก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งสุด ๆ สำหรับวิทยาการพันธุกรรม ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านำมาถ่ายทอดแก่พุทธศาสนิกชน และสืบต่อเนื่องมาถึงพวกเราชาวพุทธนี่ก็ 2558ปี ก็ยังล้ำหน้านำสมัย ชนิดที่นิยายSci-Fi เทียบไม่ติด

      ดังได้กล่าวไปในตอนที่ผ่านมาเกี่ยวกับ DNA และ RNA โดยสังเขปมาแล้ว จะเห็นได้ว่า เจ้า DNA นั้นเป็นตัวเก็บข้อมูลทางรหัสพันธุกรรม ที่ถาวร (DNA เปลี่ยนแปลงโดยตรงไม่ได้ หากมีการเปลี่ยนแปลง แค่สับรหัส ก็จะมีผลให้เกิดโรคร้าย หรือ การผิดปกติที่เรียกว่า "ผ่าเหล่า" นั่นก็เพราะว่า DNA มีระบบป้องกันตัวเอง เหมือนกับโปรแกรมที่ป้องกันMail Ware , Spam อะไรทำนองนั้น

       ข้อมูล หรือรหัสทางพันธุกรรม จะถูกCopy ออกมาโดย RNA แล้วแปลรหัส ส่งไปยังเซล์ล-ประสาท-ต่อมไร้ท่อ ให้เกิดพฤติกรรม การแสดงออกต่างๆ นี่เป็นหน้าที่เฉพาะของ RNA ที่จะนำเอานิวคลีโอไทด์ เข้าไปจับกับBase ของ DNA เพื่อนำข้อมูลจาก DNA แม่แบบออกมา โดยอาศัยเอ็นไซม์ของRNA polymerase

     การที่ RNA จะทำงานแปรรหัส หรือ นำข้อมูลจากDNA ออกมาดังกล่าวนั้น จะเกิดขึ้นโดย "ปัจจัย หรือ คลื่นที่ทำให้เกิดแรงกระตุ้น เรียกว่า "Electromagnatic" แปลแบบง่าย ภาษาชาวบ้านรู้เรื่องก็คือ "กระแสพลังแม่เหล็กไฟฟ้า" ซึ่งจะมี 2 ประเภทคือ
        1.คลื่นที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในร่างกายมนุษย์เองเรียกว่า Bio-Electromagnetic และ
        2.คลื่นที่เกิดขึ้นจากภายนอกร่างกายมนุษย์ เช่น สนามแม่เหล็กโลก คลื่นวิทยุ รังสีต่าง ๆ (ดูภาพตัวอย่าง แหล่งกำเนิดคลื่น)






        การเกิดผลให้ RNA ทำงานส่วนใหญ่จะมาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในการส่งผลของสนามแม่เหล็กโลก กับ กลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในแต่ละประเทศ หรือซีกโลก จะมีพฤติกรรมแตกต่าง หรือเสมือนกัน เช่น คนไทย ก็มีนิสัยพฤติกรรมร่าเริง ให้อภัย เหมือน ๆ กัน ผิวสี หน้าตาคล้าย ๆ กัน หรือ นี่เป็นส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัด ถึงอิทธิพลของสนามแม่เหล็กโลก ที่มีผลต่อการทำงานของ RNA





      ในการทดสอบ ทดลองของนักวิยาศาสตร์การแพทย์-ด้านพันธุกรรม ได้พยายามอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมในDNA ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ อย่างสูงสุดได้แค่ผสมพันธุ์สัตว์ข้ามสายพันธ์ แต่เปลี่ยนพฤติกรรม รวมทั้งอนาคตมนุษย์ ไม่ว่าเรื่องการเจ็บป่วยโรคภัย เช่นมะเร็ง ฯลฯ ก็ยังรักษาไม่ได้ เข้าไม่ถึง เพราะมันผิดทิศผิดทาง






       ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ แบบเข้าใจง่ายที่สุด คือ DNA เปรียบเสมือนห้องสมุด ที่ได้จัดเรียงหนังสือ เอกสาร แต่ละเรื่อง แต่ละเล่มไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ อยู่ชั้นไหน เล่มที่เท่าไร ต้องอยู่ตรงนั้น ขยับที่ไม่ได้ ไม่งั้นจะค้นไม่เจอเรียกว่า  (ใครทำหน้าที่บรรณารักษ์ หรือ ผู้ที่ชอบเข้าห้องสมุดจะทราบดี จะเห็นว่ามีสติ๊กเกอร์์ใส่หมายเลข+อักษร ไว้)

การเปลี่ยนที่สับที่เอกสาร หรือหนังสือ ก็คือ การเปลี่ยนรหัสของDNA นั่นเอง เปลี่ยนที่เมื่อไร ได้เรื่องเมื่อนั้น !!

      แต่สำหรับทRNA ก็เปรียบเสมือน ร้านถ่ายเอกสาร ที่อยู่ในห้องสมุด เมื่อต้องการข้อมูลไหน(รับคลื่นกระตุ้นแบบไหน) ก็หยิบเล่มนั้น(เอาข้อมูลถาวรของDNA) มาถ่ายเอกสาร(แปลรหัส) แล้วนำเอกสารต้นฉบับไปเก็บไว้ที่เดิม ดังนั้น DNA จึงไม่เสียหายหรือชำรุดใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่เกิดการMutation กับ DNA

     ดังนั้นรหัสใน DNA จึงไม่ถูกเปลี่ยนแปลง แต่ข้อมูลที่ถ่ายเอกสารออกมา ถูกนำไปทำการบ้าน ทำรายงานส่งอาจารย์ นั่นคือผลของการทำงานโดยRNA

     ความแตกต่างจึงอยู่ที่ตรงนี้







และด้วยเหตุที่ DNA หรือรหัสพันธุกรรมที่เปลี่ยนไม่ได้ นี่แหละตรงกันกับพุทธพจน์ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ ก่อนที่ฝรั่งจะค้นพบ DNA กว่า 2,000ปี ว่า "กมฺมุนา วตตี โลโก....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" และ "กรรม ย่อมจำแนกสัตว์ให้แตกต่างกัน ...สัตว์ทั้งหลายย่อมมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์"

     แต่ผู้ที่ปฏิบัติชอบตามหลักแห่ง "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" หนทางเดียวเท่านั้นจะรู้ว่า จะเลือกหยิบหนังสือ หรือข้อมูลไหน มาให้RNA ถ่ายเอกสาร(ถอดรหัส) และใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้น คือ ไม่ต้องเป็นไปตามที่กรรมกำหนด(อยู่เหนือกรรม=ควบคุม บังคับพันธุกรรมได้)

       จุดสำคัญที่สุด ในการบังคับใช้ ให้ RNA ทำงาน นั้นก็คือ "การสร้างแรงกระตุ้น RNA ด้วย "ธรรมชาติของมนุษย์นั้นเอง" ซึ่งหมายถึงการกระตุ้นจากภายในร่างกายมนุษย์ ไม่ใช่จากอุปกรณ์ หรือ กระแสจากภายนอก
   
         กระแสที่เกิดจากภายในนี้เรียกว่า "Bio-Electromagnetric" หรือ "พลังแม่เหล็ก-ไฟฟ้าชีวภาค" ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงถ่ายทอดวิธีสร้าง Bio-Electromagnetic พร้อมกับวิธีใช้งานกับ RNA และภาคปฏิบัติอีกนับร้อยเรื่อง

               ซึ่งพระสารีบุตร ได้บันทึกไว้ใน "คัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค" อย่างละเอียด ทุกขั้นตอน

ในวันต่อไป เราจะได้ศึกษาถึง วิธีสร้าง ควบคุม และใช้งาน Bio-Electromagnetic  อย่างเป็นขั้นตอนต่อไป


ขอความสวัสดีมีชัย เจริญก้าวหน้าในชีวิต ธุรกิจการงาน จงบังเกิดแก่สาธุชนผู้ปฏิบัติชอบ ทั่วกันทุกท่านเทอญ ฯ

    :::  ทาชิ  เดเล :::



https://www.facebook.com/notes/921375591239234/





Crack RNA Code By Meditation / 4







สารบัญทั้งหมดจะอยู่ทางด้านขวามือของหน้า (ทุกหน้า)