จากวันที่ลามะอาจารย์บอกแก่โวล์ฟเพียงสองสัปดาห์ เขาก็ต้องเดินทางกลับด่วน ตามคำร้องขอของรัฐบาลประเทศโปแลนด์ ที่แต่งตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของคณะรัฐบาล-กองทัพโปแลนด์ Poland Goverment Advisor WWII
ปี พ.ศ.2480 ณ กรุงวอซอร์ เมืองหลวงโปแลนด์ โวล์ฟ ได้ประกาศต่อหน้าประชาชนนับพันว่า
" ...ฮิตเล่อร์จะต้องตาย หากเปลี่ยนทิศทางการบุกไปทางด้านทิศตะวันออก...."
สื่อมวลชนยุโรปกระพือข่าวคำพยากรณ์นี้ทันที ซึ่งแน่ละย่อมเป็นข่าวดีสำหรับประเทศที่ถูกกองทัพนาซีรุกราน แต่กลับเป็นข่าวร้ายสุดสุด สำหรับอาณาจักรเยอรมัน เพราะคำพยากรณ์ของโวล์ฟ ผู้เป็นที่ปรึกษาพิเศษของรัฐบาล-กองทัพโปแลนด์ ทั้งมีฉายาจอมอภินิหารย์ หรือ มนุษย์มหัศจรรย์ ผู้มีตาทิพย์ ซึ่งได้รับการยกย่องโดยสากลว่า "เป็นจริง เชื่อถือได้เต็มร้อย "
ข่าวคำพยากรณ์ดังกล่าวของโวล์ฟ ล่วงรู้ไปถึงหน่วยเอสเอส(หน่วยสืบราชการลับนาซี) จึงรายงานสู่เบื้องบน เมื่อฮิตเล่อร์ได้รู้ข่าวนี้ จึงมีคำสั่งไปยังกองทัพทั่วภาคพื้นยุโรป ให้จับตัว โวล์ฟ เมสซิง มาให้ได้ โดยมีรางวัลนำจับสูงถึง 200,000 มาร์ค(2ล้าน2แสนบาท ขณะนั้น) ไม่ว่าเป็นหรือตาย และส่งหมายจับประกอบรูปถ่ายไปยังหน่วยทหารทุกพื้นที่ พร้อมกับให้หน่วยเอสเอสรับผิดชอบและรายงานเรื่องของโวล์ฟ โดยตรงต่อท่านผู้นำ(ฮิตเล่อร์)
จากสาเหตุคำพยากรณ์ของโวล์ฟ ดังกล่าว คณะเสนาธิการของฮิตเล่อร์ ได้ประสานฝ่ายสงครามจิตวิทยา(IO)ปล่อยข่าวลวงออกไปว่า คำพยากรณ์ของโวล์ฟนั้น ไม่เป็นความจริง โดยเปลี่ยนแปลงข้อความคำทำนายของนอสตร้าดรามุส(นักพยากรณ์ของโลก) เป็นว่า "...ฮิตเล่อร์ คือผู้ปลดปล่อยโลก รวมทั้งโปแลนด์" พิมพ์เป็นใบปลิวทิ้งจากเครื่องบินไปทั่วประเทศโปแลนด์ และยุโรป
หลังจากโปรยใบปลิวแล้ว ฮิตเล่อร์ก็สั่งให้กองทัพนาซีบุกเข้ายึดประเทศโปแลนด์ในทันทีแบบสายฟ้าแลบ ชนิดไม่ให้ตั้งตัวโดยบุกเข้ายึดกรุงวอร์ซอ(เมืองหลวงโปแลนด์) ภายในเวลาไม่ถึง24ชม. โดยปราศจากการต่อต้านจากกองทัพแห่งชาติโปแลนด์ หน่วยเอสเอสได้ส่งกำลังออกค้นหา โวล์ฟ เมสซิง ตั้งด่าน ค้นอาคารทั่วกรุงวอร์ซอ เพื่อจับกุมตัวให้ได้ตามคำสั่งท่านผู้นำ
ขณะที่กองทัพนาซีเคลื่อนเข้ายึดกรุงวอร์ซอ โวล์ฟ ไม่อาจหลบหนีออกนอกเมืองหลวงได้ทันท่วงที ในช่วงเวลาอันวิกฤตนั้น เขาได้อาศัยซ่อนในร้านขายเนื้อโดยซุกตัวอยู่ในตู้ แต่ก็ไม่อาจพ้นจากการจับกุมของหน่วยเอสเอส แห่งกองทัพนาซีไปได้
โวล์ฟ ถูกนำตัวไปยังด่านตรวจชั่วคราวของทหารนาซี นั่งอยู่ตรงหน้านายทหารผู้รับผิดชอบด่านนั้น เพื่อทำการไต่สวนโดยมีทหารนาซีถือปืนกลรายล้อมเกือบร้อย
" ... แกเป็นใคร ? " นายทหารนาซีถาม
" ผมเป็นพลเมืองโปแลนด์คนหนึ่ง " โวล์ฟตอบ
นายทหารนาซีมองหน้าโวล์ฟ แล้วหยิบหมายจับซึ่งมีรูปของโวล์ฟขึ้นมาแล้วโยนไปตรงหน้าโวล์ฟ พร้อมทั้งตะคอกใส่หน้า โวล์ฟ ว่า
" ไอ้บัดซบ ! ไอ้โกหก ... แกคือ โวล์ฟ เมสซิง ที่ทำนายให้ร้ายท่านผู้นำ(ฮิตเล่อร์) ของเรา...ทหาร จัดการมัน.." นายทหารนาซีหันไปพยักหน้ากับทหารที่ยืนถือปืนกลมืออยู่ด้วย
ทันใด ทหารคนหนึ่งก็ใช้พานท้ายปืนกระแทกไปที่ปากของโวล์ฟ จนสลบฟุปไปกับโต๊ะฟันหัก 6 ซี่ เลือดกระจายเต็มโต๊ะ นายทหารสั่งให้เอาร่างของโวล์ฟที่สลบนั้นไปขังเพื่อรอส่งมอบให้กับหน่วยเอสเอสต่อไป
โวล์ฟ ฟื้นจากสลบขึ้นมาท่ามกลางความมืดและหนาวเหน็บ เขารวบรวมพลังสมาธิ(Enlighterment Power)จนเห็นภาพนิมิต(Imagine)ของทหารยามภายนอกอย่างชัดเจน ตามที่ได้ศึกษาฝ ึก ปฏิบัติมาจากลามะพุทธผู้เป็นอาจารย์ ว่าทหารที่ควบคุมเขาอยู่นับร้อยนั้นพากันเดินเข้าไปในห้องขัง
และทหารผู้หนึ่งใส่กุญแจห้องขังนั้น โดยมีทหารทั้งหมดอยู่ภายใน จากนั้นทหารคนนั้นก็มาไขกุญแจนำตัวเขาออกจากที่คุมขัง พร้อมกับนำไปปล่อยในที่ปลอดคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามนิมิตนั้นดุจดั่งปาฏิหารย์(ปรากฏตามคำสอบสวน-รายงานของหน่วยเอสเอส ในกรณีดังกล่าวนี้) สิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นครั้งแรกที่โวล์ฟ ได้ใช้พลังสมาธิ(Enlighterment Power)เอาชีวิตรอดจากความตายได้ สมดั่งที่อาจารย์เขาได้บอกไว้นั้น...แต่มันจะหมดเคราะห์ร้ายของเขาเพียงแค่นี้หรือ.... ?
โวล์ฟ ได้หลบหนีทหารนาซี โดยซ่อนตัวไปกับรถบรรทุกหญ้าแห้ง ร่วมผู้อพยพลี้ภัยสงครามนับพันเข้าสู่เมืองBrest Litovvsk ของประเทศรัสเซีย ได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเข้าสู่ประเทศรัสเซีย โวล์ฟ ตรงไปยังกระทรวงวัฒนธรรมรัสเซีย และเข้าพบ รมว.วัฒนธรรม เมื่อทำการทดสอบความสามารถเหนือมนุษย์ของโวล์ฟ แล้ว รมว.วัฒนธรรม จึงตกลงว่าจ้าง โวล์ฟ ให้เป็นที่ปรึกษาพิเศษ
โดยมอบหมายให้ทำหน้าที่เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อเปิดการแสดงสาธิตพลังสมาธิ( Enlighterment Power)เหนือมนุษย์ เป็นการเสริมกำลังใจให้แก่กองทัพ และะประชาชนชาวรัสเซีย ให้เชื่อมั่นว่าจะชนะกองทัพนาซีของฮิตเล่อร์ได้ ด้วยพลังเหนือธรรมชาติ กระทรวงวัฒนธรรมรัสเซีย ได้ตั้งชื่อการสาธิตพลังสมาธิ(Enlighterment Power) ของ โวล์ฟ เมสซิง ว่า "การทดลองทางจิตวิทยา"(Parapsychology Experiment
โวล์ฟ ได้แสดงความสามารถแห่งพลังสมาธิ (Enlighterment Power)ในการอ่านจิตใจของผู้นำทางทหารระดับสูงของรัสเซีย เข้าไปถึงระดับการวางแผนยุทธศาสตร์ อีกทั้งสามารถพยากรณ์ผลการรบในยุทธภูมิล่วงหน้าได้อย่างถูกต้องเกินร้อย
พลังสมาธิ(Enlighterment Power) ของ โวล์ฟ ในส่วนของการพยากรณ์ผลการรบล่วงหน้าอย่างถูกต้องทุกสมรภูมิ ทำให้ทางกองทัพของโซเวียตหวั่นวิตกเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากการแสดงของโวล์ฟ จะขัดต่อหลักการของลัทธิคอมมิวนิสต์ยุคสตาลินชนิดขาวกับดำ ในการห้ามไม่ให้เชื่อถือสิ่งลึกลับหรือแม้แต่การนับถือศาสนา
การนำเสนอต่อมวลชนของโวล์ฟ ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ และแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริงตามคำพยากรณ์ของโวล์ฟก็ตาม ทางการรัสเซีย โดยกระทรวงประชาสัมพันธ์ได้ให้ผู้อำนวยการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวช แถลงผ่านหนังสือพิมพ์ปราฟดา ว่า "การล่วงรู้อนาคต หรือ การอ่านความคิด-จิตใจคนไม่มีอยู่จริง และเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์...."
ดังนั้น ขณะที่ โวล์ฟ เมสซิง กำลังสาธิตพลังสมาธิ Enlighterment Power อยู่ที่เมืองGomel ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย อยู่นั้น
ทันใด เจ้าหน้าหน่วยสืบราชการลับรัสเซีย(KGB) ก็ได้แสดงตนและประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงบนเวทีว่า
" ...เรามีความเสียใจอย่างยิ่งต่อผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ต้องจบการสาธิตของ โวล์ฟ เมสซิง เพียงเท่านี้..."
จากนั้น โวล์ฟ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ KGB นำตัวออกไปขึ้นรถ ท่ามกลางความมตกตลึงพรึงเพริดของผู้เข้ารับชมจำนวนพัน......
...... โวล์ฟ จะเจอกับอะไร ? ตายหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป ...