ขอความผาสุข สวัสดี จงมีแด่สาธุชนทุกท่าน ต่อไปนี้จักได้บรรยาย สาระธรรม อันเป็นอรรถประโยชน์แด่ทุกท่าน สืบไป
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
ขอนอบน้อมแด่พระธรรมอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
ขอนอบน้อมแด่พระอริยสงฆ์ผู้ดำรงพระธรรมวินัย สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
วันนี้จะได้กล่าวถึง "
เคล็ดลับของการทำบุญ" ว่า "ทำบุญอย่างไร จึงจะได้รับผลทันที"
ที่ต้องนำเรื่องนี้มากล่าวก็เพราะว่า สาธุชนส่วนใหญ่ที่มีจิดใจประกอบด้วยกุศลศรัทธาในยุคปัจจุบันนี้ มักชอบในการ "
ทำบุญ" ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี
....แต่ว่า มักไม่ค่อยได้ตระหนัก หรือ รู้ลึกไปถึงความเป็นจริงว่า "
ที่ได้ตั้งใจทำบุญ" ไปนั้น จะได้รับผลเมื่อไร เพราะต่างก็เชื่อตามๆ กันว่า ที่ทำบุญไป คงจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ ในขณะนี้(ชาตินี้) ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตาม
ความเป็นจริง แล้วนั้น ขอบอกว่า "ไม่ใช่ !!"
ที่บอกว่าไม่ใช่ ก็เพราะว่า การทำบุญที่จะให้ผลทันที ในชาตินี้ ภพนี้นั้น มีวิธีทำบุญเฉพาะ ซึ่งต้องทำให้ถูกวิธี ถึงจะได้รับผลบุญในทันทีชาตินี้เลย จะเรียกว่าเป็น "
เคล็ดลับในการทำบุญ" ก็ได้ และนี่แหละที่เราจะมากล่าวถึงกันในวันนี้
ก่อนอื่นต้องรู้กันก่อนว่าความหมายของคำว่า "
บุญ" จริง ๆ ในพระพุทธศาสนาให้ผลอย่างไร และชนิดไหน จึงเรียกว่า "
บุญ" เอาที่แน่ ๆ ก็ต้องยกพระบาลีที่มีมาในพระไตรปิฏกมายืนยัน เพื่อไม่ให้เป็นข้อสงสัย ขัดแย้งในภายภาคหน้า การให้ผลของบุญ ที่ส่งผลให้สมปรารถนานั้นมีพระบาลี ดังนี้
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ นิธิกัณฑ์ในขุททกปาฐะ
เอสเทวมนุสานํ สพฺพกามโท นิธิ
ยํ ยํ เทวาภิปตฺเถนฺติ สพฺพเมเตน ลพฺพติ
สุวณฺณตา สุสรตา สุสณฺฐานํ สรูปตา
อธิปปจฺจํ ปริวาโร สพฺพเมเตน ลพฺภติ ฯ
บุญนิธินั้น ย่อมอำนวยผลที่ปรารถนาทุกอย่าง แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายที่ปรารถนาในอิฐผลใด อิฐผลนั้นย่อมสำเร็จได้ด้วยบุญนิธินี้
ความมีวรรณะงาม
ความมีเสียงไพเราะ
ความยิ่งใหญ่
ความมีผู้ใช้สรอย
อิฐผลทั้งหมดที่ปรารถนานั้น ย่อมได้ด้วยบุญนิธินี้ ฯ
ตามพระบาลีที่ยกขึ้นมาเบื้องต้นนั้น ก็เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า
๑.
บุญมีที่เก็บ ที่สะสมบุญอยู่จริง (ที่สอนว่าบุญเบิกได้เหมือนธนาคาร ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย หรือคิดขึ้นมาเอง)
๒. "
บุญทำให้เราได้สมปรารถนา ที่อธิษฐานได้จริง"
แต่ที่สำคัญคือ
บุญที่เราทำนั้น จะให้ผลสมปรารถนาเมื่อไร นี่ซิเรื่องสำคัญ เป็นประเด็นหลักของการบรรยายวันนี้ ซึ่งการที่บุญจะ
ให้ผลสมปรารถนาในทันที หรือ ในชาติปัจจุบันนี้(ไม่ต้องรอตายก่อน แล้วค่อยไปรับชาติหน้า) นั้นขึ้นอยู่กับเคล็ดลับใหญ่ ๆ คือ
๑.
เนื้อนาบุญ คือ บุคคลที่เราทำบุญด้วย เหมือนปลูกข้าวในนา ย่อมได้รวงข้าว ต่างกับปลูกข้าวบนแผ่นสังกะสีมีแต่เสียเมล็ดพันธุ์ข้าวจึงมีพระบาลีเตือนไว้ว่า
" ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ฯ บูชา(
ทำบุญ) กับผู้ที่ควรบูชา จึงจะประสบสิ่งเป็นมงคลกับชีวิต
๒.
การทำบุญต้องทำโดยไม่ต้องมีใครชวน(สสงฺขาริกฺ) คือมีกุศลเจตนาอยากทำบุญ ก็ทำเลย แต่ต้อง
อธิษฐานด้วย กาย วาจา ใจ ที่ถึงพร้อมในขณะจิตแรก(ผู้ที่ฝึกสติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค จะทำได้ทุกท่าน)
การทำบุญนั้นจะได้ผลในทันที จะต้องกระทำด้วยการถึงพร้อมด้วย กุศลเจตนาในวาระจิตดวงที่ ๑ ซึ่งเรียกว่า
ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรม(การกระทำ)ที่ให้ผลในปัจจุบัน คือให้ผลในภพชาตินี้ เป็นกรรมที่ให้ผลรวดเร็วเป็นปัจจุบันทันด่วน ไม่ต้องรอรับผลในชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ คือให้ผลทันทีทันตาเห็น
ทิฏฐธรรมเวทนียกรรมนั้น เกิดจากเจตนาที่ประกอบอยู่ในปฐมชวนจิตดวงที่ 1 ดังมีพระบาลี ว่า
ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ ปฐมํ ชวนํ ภเว
ทิฏฐธรรมเวทนียกรรมนั้น ได้แก่ เจตนาที่ประกอบอยู่ในชวนจิตดวงที่ 1
ชวนจิตมี ๗ ขณะ เจตนาในชวนจิตดวงที่ ๑ เมื่อให้ผลเป็นทิฏฐธัมมเวทนีย กรรม คือ ให้ผลในปัจจุบันชาตินั้นเอง
ทิฏฐธรรมเวทนียกรรมมี 2 ประเภทที่ให้ผลในชาตินี้มีชื่อเฉพาะว่า
ปริปักกทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมที่บันดาลให้ได้รับผลในปัจจุบันชาตินี้ทันที เพราะกรรมประเภทนี้มีกำลังในการให้ผลมาก จึงสามารถที่จะบันดาลให้บุคคลที่กระทำกุศลกรรมได้รับผลภายใน 7 วันอย่างแน่นอน
ข้อสำคัญผู้ที่ได้ทำบุญด้วยทิฏฐธรรมเวทนียกรรม จะต้องประกอบด้วยสมบัติ ๔ ประการ จึงจะได้รับผลทันที
สมบัติ 4 ประการ คือ
1.
คติสมบัติ การได้เกิดในสุคติภูมิ
2.
อุปธิสมบัติ ผู้ที่เกิดมามีร่างกายที่ ไม่พิกลพิการ
3.
กาลสมบัติ การได้เกิดในยุคสมัยที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข พระราชาเป็นสัมมาทิฏฐิ รู้คุณค่าพระพุทธศาสนา
4.
ปโยคสมบัติ เพียรปฏิบัติในหนทางอันชอบ
เมื่อท่านสาธุชนได้หันมองกลับดูตัวตนของตนเอง แล้วพิจารณาดูจะเห็นได้ว่า ทุกท่านล้วนเป็น "
ผู้ที่กำเนิดมาชนิดเป็นมหาบรมโชค มีสมบัติ ๔ ประการ ครบสมบูรณ์" ตามคุณสมบัติ คือ
๑.
มีสุคติสมบัติ คือ เกิดมนุษยภูมิ ไม่ได้เกิดในภูมินรก เปรต อสุรกาย
๒.
มีอุปธิสมบัติ คือ เกิดมาร่างกายสมประกอบไม่พิกลพิการ
๓.
มีกาลสมบัติ คือ คือ การได้เกิดในแผ่นดิน(ไทย) อันร่มเย็นเป็นสุข มีพระราชาเป็นสัมมาทิษฐิ รู้คุณค่าพระพุทธศาสนา (ตรงนี้สำคัญและได้กล่าวแทบทุกครั้งในการบรรยาย ว่าท่านสาธุชนทั้งหลายควรที่จะภาคภูมิใจ ในการที่เกิดมาเป็นชนชาติไทย อันเป็นแผ่นดินที่มีพืชพรรณธัญญาหารสมบูรณ์ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นพุทธมามกะ เป็นพุทธศาสนูปถัมภก(อุปถัมพระพุทธศาสนา=รู้คุณค่าพระพุทธศาสนา.... ประเทศอื่นแม้มีกษัตริย์ หรือผู้นำ ที่ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา ก็ทำบุญไม่ขึ้น แม้ประชาชนในประเทศนั้น ๆ จะนับถือพระพุทธศาสนาก็ตาม..น่าสงสารชนพวกนั้นทำบุญอย่างไร ก็ต้องไปรับชาติหน้า ๆๆๆๆ จนกว่าจะสิ้นวัฏฏะสงสาร ไม่รู้ว่าชาติไหน ที่แน่ ๆ ชาตินี้ยังไงก็ไม่ได้ผลบุญที่ทำ)
๔.
มีปโยคสมบัติ คือ ได้มาพบ และเพียรปฏิบัติในหนทางอันชอบ ซึ่งก็คือการปฏิบัติภาวนาตามพุทธวิถี สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค (หนทางนี้ทางเดียว ไม่ใช่ทางอื่น...เอกมคฺโค..)
ตอนนี้คงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมสาธุชน ที่ได้เข้ามาศึกษาปฏิบัติ สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค แม้เพียงน้อยนิด เริ่มต้น ก็ได้รับสิ่งอันเป็นมงคลอยู่เสมอ ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ก็ด้วยเหตุที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมดนั้น
ที่ได้นำมาบรรยายนี้ ก็เพื่อให้สาธุชนทั้งหลาย ได้เข้าใจ และเข้าถึง "
เคล็ดลับของการทำบุญ ให้ได้ผลทันที" และ
ขจัดข้อสงสัยกับหลาย ๆ ท่านว่า เหตุใดจึงไม่แจกซอง หรือประกาศเรี่ยไร บอกบุญ เหมือนกับทุก ๆ แห่ง ทุกสำนักเขาทำกัน
ทั้งนี้ก็เพราะว่า "เรา" มีกุศลเจตนาที่จะให้สาธุชนทุกท่าน "ได้รับผลบุญในทันที" โดยให้ท่านได้ทำบุญด้วย จิตดวงแรก อันเป็น "ปริปักกทิฏฐธรรมเวทนียกรรม" ซึ่งจะแสดงผลในทันที ในภพชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า...
ฉะนั้น สาธุชนที่มีกุศลเจตนา ประกอบศรัทธา จะทำบุญในครั้งต่อ ๆ และต้องการให้ได้รับผลในชาตินี้ ชนิดทันตาเห็น ก็ต้องฝึกถึงพร้อมในจิตดวงที่ ๑ ตามที่แสดงมานั้น ทุก ๆ ครั้งที่ทำบุญ
ด้วยผลานิสงค์แห่งกุศล ใน "
บุญ" อันท่านทั้งหลายได้กระทำถึงพร้อมแล้วนั้น ขอความผาสุข สวัสดี มีโชคชัย ประสบแต่สิ่งอันเป็นมงคล ปรารถนาผลใดอันประเสริฐเลิศแล้วที่ใจอธิษฐาน จงสำเร็จทุกประการ ทุกท่านเทอญ ฯ
เจริญพร
สารบัญทั้งหมดจะอยู่ทางด้านขวามือของหน้า (ทุกหน้า) เวอร์ชันสำหรับเว็บ
สารบัญ หัวข้อหลักที่ควรทราบ