เวลาเราเหนื่อย ล้า มาก ๆ ถ้าไม่ใช้จั๊กจั่นลอกคราบ ร่างกายจะปรับตัวไม่ได้ กล้ามเนื้อจะยึด เช่นนิ้วล๊อค หรือ ตระคิว สุดท้ายอัมพาต เพราะร่างกายจะรีดพลังไฟฟ้า Bio-Electric ที่เรามีไปใช้จนหมด แต่เมื่อเราCharge ใหม่ด้วยจั๊กจั่น ก็จะช่วยได้ร่างกายสดชื่น จะเหมือนเราพักผ่อนเต็มที่
ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเร่งงาน ไม่มีเวลาพักผ่อนพอเพียง หมั่นฝึกฝน จะเป็นประโยชน์แก่สุขภาพยามเมื่อสูงอายุ นะ เจริญพร
ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเร่งงาน ไม่มีเวลาพักผ่อนพอเพียง หมั่นฝึกฝน จะเป็นประโยชน์แก่สุขภาพยามเมื่อสูงอายุ นะ เจริญพร
สำคัญที่สุดคือ " ภาพ"(image)หรือ ที่เรียกว่า "นิมิต" เราต้องเห็นให้ "ชัด" เป็นการฝึก"อธิษฐาน" เหมือนกันต้องมี"ภาพ" ที่เราต้องการให้เป็น ให้เกิดขึ้นประกอบไปด้วย ไม่งั้นจะไม่เกิดผล แม้พระอริยะบุคคล ปฏิบัติจะไปนิพพาน ก็ทิ้ง "นิมิต"(Image,ภาพ) ไม่ได้
ทำไมจึงต้องอาศัยนิมิตทำสมาธิ ?
เพราะนิมิตเปรียบเหมือนพาหนะของสมาธิ ไม่มีนิมิต ไม่มีสิทธิเข้าสู่สมาธิ ไม่ว่า อุปฺจาร-อปฺปนา และนิมิตนั้นจะต้องเป็นนิมิตอันเกิดจากใจ (มโน) กำหนด “นิมิตไม่เกิด สมาธิไร้ผลสิ้นเชิง”
เอตฺถ จ อญฺญเมว อสฺสาสารมฺมณํ จิตฺตํ
อญฺญํ ปสฺสาสารมฺมณํ อญฺญํ นิมิตฺตารมฺมณํ ยสฺสหิ อิเม ตโยธมฺมา นตฺถิ
ตสฺส กมฺมฏฺฐานํ เนว อปฺปนฺนํ น อุปจารํ ปาปุณาติ
ยสฺส ปนิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ
ตสฺเสว กมฺมฐานํ อุปฺจารญฺจ ปาปุณาติ
วุตฺตญฺเหตํ
นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา อานารมฺมณเมกจิตฺตสฺส
อชานโต จตโย ธมฺเม ภาวนา นุปลพฺภติ
นิมิตฺตํ อสฺสาสาปสฺสาสา อานารมฺมณเมกจิตฺตสฺส
ชานโต จ ตโย ธมฺเม ภาวนา อุปลพฺภติ ฯ
อญฺญํ ปสฺสาสารมฺมณํ อญฺญํ นิมิตฺตารมฺมณํ ยสฺสหิ อิเม ตโยธมฺมา นตฺถิ
ตสฺส กมฺมฏฺฐานํ เนว อปฺปนฺนํ น อุปจารํ ปาปุณาติ
ยสฺส ปนิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ
ตสฺเสว กมฺมฐานํ อุปฺจารญฺจ ปาปุณาติ
วุตฺตญฺเหตํ
นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา อานารมฺมณเมกจิตฺตสฺส
อชานโต จตโย ธมฺเม ภาวนา นุปลพฺภติ
นิมิตฺตํ อสฺสาสาปสฺสาสา อานารมฺมณเมกจิตฺตสฺส
ชานโต จ ตโย ธมฺเม ภาวนา อุปลพฺภติ ฯ
นิมิตหนึ่ง อัสสาสะ(ลมหาใจเข้า)หนึ่ง
ปัสสาสะ(ลมหาใจออก)หนึ่งนี้ มิใช่จิตดวงเดียวกัน ถ้าผู้ใดขาดเสียอย่างใดอย่างหนึ่ง ภาวนาของผู้นั้นย่อมไม่สำเร็จ
นิมิตหนึ่ง อัสสาสะหนึ่ง ปัสสาสะหนึ่ง ธรรมสามอย่างนี้มิใช่จิตดวงเดียวกัน ผู้กระทำครบธรรมทั้งสาม ภาวนาของผู้นั้นย่อม “สำเร็จ”
(พระสารีบุตร-วิ ๒ / ๗๗)
(พระสารีบุตร-วิ ๒ / ๗๗)
นอกจากจะต้องให้มีสติผูกนิมิตไว้แล้ว ยังต้องรักษานิมิตนั้นให้ดีที่สุด ดุจการประครองแก้วมณีค่าควรเมือง
ดังนั้น โยคาวจร(ผู้ปฏิบัติ) ปรารถนาความสำเร็จทั้งปวง ย่อมสำเร็จได้ด้วย "ใจ" ประกอบ "นิมิต" ที่ปรารถนา "จะได้ จะเป็น" พร้อมไปกับลมหาใจนั้น จึงจะสมดั่งได้ปรารถนา เกิดขึ้น "จริง"
ฉะนั้น ผู้ที่ บอกตัวเองว่า "ปฏิบัติแล้วไม่เห็นได้" ก็แสดงว่า "ภาพ หรือนิมิต" ไม่ชัด 1 หรือ แม้ภาพนั้นชัด แต่ไม่ได้เข้าออกตามลมหาใจ มิได้ตั้งไว้ ณ ปถวีธาตุ1 หรือ มิได้เกิดปิติ 1
ดังนั้น โยคาวจร(ผู้ปฏิบัติ) ปรารถนาความสำเร็จทั้งปวง ย่อมสำเร็จได้ด้วย "ใจ" ประกอบ "นิมิต" ที่ปรารถนา "จะได้ จะเป็น" พร้อมไปกับลมหาใจนั้น จึงจะสมดั่งได้ปรารถนา เกิดขึ้น "จริง"
ฉะนั้น ผู้ที่ บอกตัวเองว่า "ปฏิบัติแล้วไม่เห็นได้" ก็แสดงว่า "ภาพ หรือนิมิต" ไม่ชัด 1 หรือ แม้ภาพนั้นชัด แต่ไม่ได้เข้าออกตามลมหาใจ มิได้ตั้งไว้ ณ ปถวีธาตุ1 หรือ มิได้เกิดปิติ 1
โยคาวจร ผู้ต้องการความสำเร็จ ในกาลทุกเมื่อ จงตรวจสอบ เสริม ดั่งได้พรรณามาแต่ต้นนั้นเทอญ
ขอความสำเร็จดั่งปรารถนา จงบังเกิดมี แด่ผู้ปฏิบัติชอบ จงทั่วกันเทอญ
ก่อนที่จะลืม เพราะอยาก ให้ทุกท่าน สมปรารถนาในสิ่งที่อธิษฐาน ซึ่งส่วนใหญ่มัก "พลาด"
เวลาที่เราอธิษฐาน ให้ตั้งภาพ "อธิษฐาน ที่ต้องการไปด้วย" อย่า"นึก" เฉย ๆ จะไม่ได้ผล และ ต้องให้ "สิ่งที่เราอธิษฐานตามภาพนั้น เรื่องนั้น เกิดขึ้น=สำเร็จเสียก่อน จึงเปลี่ยน "ภาพ" และคำอธิษฐาน ไม่ใช่เปลี่ยนทุกวัน หรือ ทุกครั้งที่อธิษฐาน นะ เจริญพร