ทั้งนี้อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนเราไม่ค่อยศรัทธาในศาสนาใดๆเลย แต่บางคำสั่งสอนเราก็ว่าเป็นประโยชน์ ทำให้เราใจเย็นและสบายใจกับปัญหาต่างๆได้บ้าง แต่เมื่อเรามาพบกับพระอาจารย์ธรรมบาล ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนที่ศรัทธาศาสนาพุทธขึ้นมาโดยฉับพลัน คิดว่าพอทราบว่าเพราะอะไรเราถึงเปลี่ยนความคิดไปได้ถ้าหากพวกคุณๆได้อ่านคำนำที่เราได้ถ่ายทอดไว้ก่อนแล้ว(ขอย้ำว่าเราไม่ใช่หน้าม้า หากคุณไม่ลองปฏิบัติเองคุณจะไม่มีทางทราบได้เลยว่าทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ที่นำมาเผยแผ่ให้อ่านและรับรู้เพราะต้องการให้ทราบว่าเมื่อท่านนับถือศาสนาพุทธแล้วต้องได้ดีและมีคุณประโยชน์แน่นอน เราไม่ได้มาเอาอะไรจากพวกคุณ แค่ต้องการให้ทราบว่าการทำบุญไม่ใช่การใช้เงิน แต่เป็นการสวดมนต์ให้ปากกับใจตรงกันเท่านั้น แล้วตัวคุณเองก็จะสามารถสอนลูกหลานญาติมิตรของคุณต่อไปได้ แล้วศาสนาของพวกเราจักกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พวกที่จ้องบ่อนทำลายศาสนาจะได้รู้ว่าศาสนาเราดีอย่างไร จากความสามัคคีของพวกเรานี่แหละ )
ต่อไปเราจะทะยอยเล่าเรื่องหลายๆเรื่องที่เกิดกับเราและบุคคลที่ไปเรียนกับพระอาจารย์ในปีแรกก่อน ดังนี้
เรื่องนี้เกิดกับเราเอง (ก่อนเรียนกับพระอาจารย์ช่วงเข้าพรรษา ปี 2552) ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คิดว่าจะทำได้ เพียงแต่เป็นเรื่องเล็กๆที่ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถทำได้จริงเมื่อคุณได้ฝึกวิชชานี้แล้ว คือเรื่องการจอดรถในห้างสรรพสินค้าทั่วไปซึ่งเป็นสถานที่ที่หาที่จอดค่อนข้างยากมาก ครั้งแรกหลังจากที่ท่านสอนเราแล้วเพียงแค่ให้พูดออกเสียงในการขอ(อธิษฐาน)เท่านั้น เพื่อให้เทวดาได้ยิน มันเป็นความถี่(คิดว่าคงเข้าใจ) เราได้ไปมาบุญครอง ทุกครั้งเราจะได้ชั้น5-6เกือบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เราขอลองวิชชาหน่อยเถอะ เราขอให้ได้จอดชั้นแรก(แต่ไม่ได้นึกภาพใดๆ เพราะยังไม่ได้เรียนอะไรเลยเรื่องนี้) ปรากฏว่า เมื่อเราเข้าไปลานจอดรถ จ่ายเงินค่าจอด รับบัตร แล้ววนขึ้นชั้น1 ขับไปประตูที่สองก็มีที่ให้เรา1ที่ ใกล้ประตูทางเข้าอีกตะหาก ครั้งนี้คิดว่าบังเอิญ ก็ท้าพิสูจน์ครั้งต่อๆไปเรื่อยๆ และทุกครั้งเราจะได้จอดชั้น1ตลอดที่มาบุญครอง แต่ถ้าวันไหนเราไม่ขอ ก็ขับไปเถอะวนมันจนถึงชั้น5-6เหมือนเดิม
เรานำเรื่องนี้ไปสอนเพื่อนคนนึง และเพื่อนเราก็ทำได้ นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของความศรัทธามาเรื่อยๆ ไม่เชื่อลองทำดู
หลังจากนั้นไม่นาน เราและแฟนก็ได้เริ่มไปเรียนที่วัดในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งเป็นปีแรกที่ท่านเปิดสอนสำหรับฆราวาส ขอข้ามไปหนึ่งอาทิตย์ก่อนเลยละกัน ก็มีคนที่มาเรียนคนนึง(มาจากลพบุรี) เค้าเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาเรียนนี่เค้ากับสามีคิดอยากจะฆ่าตัวตายแล้วเพราะว่าลูกชายเค้าเกเรมาก หาเรื่องให้เสียเงินได้ตลอดเวลา ต้องประกันตัวและต้องเสียเงินให้เจ้าทุกข์เสมอๆ หลังจากที่เรียนและปฏิบัติตามวิธีที่ท่านสอนเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เค้าก็แปลกใจว่าทำไมสิ่งที่เค้าต้องการและปรารถนาที่สุดได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ นั่นคือลูกชายของเค้าได้เปลี่ยนเป็นคนละคนจากเที่ยวเตร่เฮฮาหาเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทเรื่อยไป กลายเป็นคนไม่เที่ยวและใจเย็นขึ้นไม่ออกไปหาเรื่องใครและยังบอกอีกว่า เราไม่ไปทำเค้า เค้าก็ไม่ทำเราหรอกแม่
นี่แค่คำอธิษฐานแบบยังไม่ได้ตัวปิติเลยด้วยซ้ำยังสามารถทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ขนาดนี้ มันไม่บังเอิญแน่ๆ
_________________________________
และขอข้ามมาอีกสองปีเลยนะคะ อยากให้ดูก่อนเรื่องอื่นจริงๆค่ะว่าผลของการตั้งใจปฏิบัติชอบเป็นเยี่ยงไร
เข้าไปที่เว็บ
http://watsuwan.tk
เลือกหมวด อธิษฐานบารมี
จะเห็น ตัวอย่างอยุ่สี่บุคคลในนั้นค่ะ
________________________________
และดังตัวอย่างกรณีนี้อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ต้องการให้อ่านอย่างเป็นที่สุด
เริ่มเลยนะคะ (3 ก.ย. 2555)
ข้อความที่พระอาจารย์ได้ส่งให้พี่แอ้ะ วันที่ 3 สิงหาคม 2555 มีดังนี้
ถึง คุณโยมแอ้ะ
วันนี้ได้รับเอกสารของคุณ โดยเฉพาะกรณีการป่วยของ Mr.Erich Muller จึงรีบตอบด่วน เพราะสามารถแก้ไขได้ และกล้าบอกได้ว่าถ้าปฏิบัติตามที่จะบอกให้ทราบต่อไปนี้ " มีสิทธิหายแน่นอน"
ให้ Mr.Erich ปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ให้เอาภาพที่Scan
นั้นดูให้จำภาพให้ได้ (หมายถึงตำแหน่งที่เป็น) เมื่อจำภาพได้แล้ว ทำต่อข้อ 2
2. หายใจให้มีความรู้สึกว่าเข้าทางกระหม่อม(คงเคยเห็นหัวเด็กทารกตรงกลางที่เต้นตุ๊บ ๆ นั่นแหละ) ขณะที่หายใจเข้า ให้นึกภาพพลังพุทธานุภาพ จะเป็นแสงสีใดก็ได้ แสงสีดังกล่าวให้รู้สึกว่าได้ตามลมหายใจลงไปให้สุด (ให้รู้ว่าสุดที่ไหน - ตรงไหน) เมื่อทราบอย่างแน่นอนแล้ว กำหนดให้เห็นภาพตาม 1 วางลงไปที่ตำแหน่งสุดลมหายใจนั้น ให้เห็นภาพชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อภาพชัดเจนแล้ว ทำต่อข้อ 3
3.ให้หายใจออกพร้อมกับภาพขึ้นไปถึงที่คอ(ฐานอากาสธาตุ=เพื่อสลายเนื้อร้าย) ตรงนี้ให้กล่าวคำว่า " Clear & Gone " ให้เสียงออกมาพร้อมกับลมหายใจออก และภาพเนื้อร้ายที่ลอยออกไปทางจมูก และกระจายหายไปในอากาศ=ให้ทำเท่าที่นึกได้ คือ สะดวกตอนไหนก็ทำ แต่ไม่ควรน้อยกว่าวันละ 8 ครั้ง
ถ้าทำได้ตามที่บอกนี้ ภายใน 30 วัน จะหายเป็นปกติ
:: หมายเหตุ :: มะเร็งไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค หรือ โรคระบาด แต่เป็นโรคอันเกิดแต่อกุศลกรรมในชาติปางก่อน จึงสามารถรักษาได้โดยไม่ต้องใช้ยา คือ สร้างกุศลกรรม อันได้แก่พลังพุทธานุภาพกำจัดได้แน่นอน และรายของ Mr.Erich ไม่ใช่รายแรกที่ได้เคยบอกวิธี่รักษาให้ แม้แต่คนที่หมอบอกว่าเป็นมะเร็งที่ลำคอขั้นสุดท้ายทะลุออกมาด้านนอก ต้องตายภายใน 15 วัน(กรณีที่ USA) ปฏิบัติเพียง 2 อาทิตย์ หายเป็นปกติ หมอเองก็งง นี่คือพุทธานุภาพ ของแท้ ของจริง ขอให้ทำ
::: ข้อสังเกตุ :: จะรู้ได้อย่างไรว่าทำได้ผล = ให้สังเกตุตอนกำหนดภาพที่จุดสุดลมหายใจ และหายใจออก ถ้าขนลุก หรือ มีลักษณะที่แปลกไปจากปรกติ ตอนกล่าวคำว่า Crear & Gone แสดงว่า ได้พลังพุทธานุภาพแล้ว
ขออำนาจแห่งพุทธานุภาพจงสถิตอยู่กับคุณโยมแอ๊ด และครอบครัว ให้ประสบความสุข สมปรารถนาที่อธิษฐาน และ ให้ Mr.Erich หายจากอาการป่วยโดยพลันเทอญ ฯ
พระธรรมบาล
http://kururin.tk/
และพี่แอ้ะได้ตอบกลับมาในวันที่ 1 กันยายน 2555 เวลา 10:08น.(ตามเวลาประเทศไทย)ดังนี้
กราบนมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ ขอกราบน้อมรับไว้ปฏิบัติเจ้าค่ะ ขอรายงานอาการป่วยของคุณเอริค ให้ทราบเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาหมอที่รักษาทางRadio-Onkologie ไม่ถึง 2 อาทิตย์ อาการเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก และหมอออกมาจับมือแสดงความยินดีด้วยกับหนู หมอยกนิ้วให้ และอีกอย่างหนื่งซี่งหมอบอกว่าตอนนี้หัวใจคุณเอริคเต้นเป็นปกติแล้ว ซื่งหลังจากเปลี่ยน 4 เส้น Bypasses ตั้งแต่ 1995 หัวใจจะเต้น ๆ หยุด ๆ หัวใจต้องทำงานหนัก แต่ตอนนี้หัวใจเต้นเป็นปกติ คุณเอริคมีความสุขมากเจ้าค่ะหลวงพ่อ โดยเฉพาะหนูดีใจยิ่งเข้าใจมากขึ้นในเรื่องการปฏิบัติ(ค่ะหลวงพ่อตามคำหลวงที่บอกว่าให้ปฏิบัติเยอะ ๆ นะ )และด้วยอำนาจแห่งพุทธานุภาพ และอธิฐาน หนูและแฟนขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อและด้วยความเคารพอย่างสูงสุด หนูประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุขค่ะ ก็อยากแนะนำทุกท่านที่กำลังเริ่มปฏิบัติ หรือบางท่านที่กำลังมีความททุกข์ ขอแนะนำให้ตั้งใจ ทำตามหลวงพ่อ อย่าท้อนะคะ ทำให้ถูกต้อง ปฏิบัติเยอะ ๆ ตรงไหนก็ได้คะ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จดังที่ต้องการ และขออนุโมบุญกับทุกท่านในวันมหาวัน ถึงตัวเองไม่มาร่วมพิธีนี้ ก็ฝากพวงมาลัยมาถวายพระด้วย.
และข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่หนูแหม่ม ณ วันที่ 3 กันยายน 2555 ดังนี้
กราบนมัสการเจ้าค่ะ@ท่านพระครูฯ @หลวงพี่หนึ่ง@พี่ๆ น้องๆ เจ้าค่ะ..
...หลวงพ่อบอกว่าเป็นหลักสูตรเก่าสมัยกรุงสุโขทัยที่ใช้ระบบ..พ่อปกครองลูกไม่มีคุกมีตะราง และมีอยู่ในพระไตรปิฎก..สมัยนี้ยุคนี้ไม่มีใครนำมาใช้จริงๆจัง ลืมกันไปหมดแล้ว การอธิษฐานต้องทำพร้อมด้วยการทรงลม..ผู้ปฏิบัติเท่านั้นที่จะพูดจากใจได้ว่าปฏิบัติแล้วได้ผลจริง..เห็นผลได้ถูกได้ตรงตามพุทธวจน..หลวงพ่อนำมาบรรยายให้รู้..เพื่อสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่..ต้องทำต่อเนื่อง จริงจัง ถูกตรงจะเกิดผลดั่งเคสของ ลุงแอริคสามีพี่แอ๊ะ
...ลุงแอริคปฏิบัติด้วยตัวเอง คิดดีทำดี.และตั้งใจทำเพื่อให้ภรรยาสืบทอดพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม..ผลจึงเกิดเร็ว หลวงพ่อแนะนำปฏิบัติเพียง 2 อาทิตย์ ลุงแอริคปฏิบัติทันที..เพียงตั้งลมทรงลมเปล่งวาจา..ปริกรรมนะโมตัสสะฯ..ต่อเนื่อง..หัวใจกลับมาเต้นจังหวะ ชะชะช่า ได้เหมือนเดิม..เรื่องหัวใจนี่เป็นผลพลอยได้นะคะ..แต่ที่สำคัญคือ
...ตัวมะเร็งที่มีผลกับลุงแอริค..ก่อนหน้านี้ต้องฉีดยาไม่ให้เชื้อเพิ่มทุกเดือน ผลของยาทำให้เป็นลมนอนไม่หลลับ เพลียฯ ภรรยาอธิษฐานหาหนทางที่ถูกที่ตรงเพื่อรักษาสามี..ก็เริ่มเปลี่ยนหมอ ต้องทำการบำบัด 33 ครั้งต่อเนื่องอาทิตย์ละ 5 วัน ผลการบำบัดจะมากมาย..ทำไปแล้ว 2 อาทิตย์ ทำพร้อมๆกับวิธีรักษาตัว.ที่หลวงพ่อแนะนำ..อุปกรณ์ที่เตรียมพร้อมหลังการบำบัด ผ้าอ้อมผ้าเย็นยาหอมยาลมยาดมยาหม่องฯลฯ..ไม่ต้องใช้เลย..เป็นปกติ แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม รุ่งขึ้นยังขับรถไปโบสถ์ ไปหาเพื่อนๆได้ และหัวใจที่เต้นผิดปกติกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม..
....อย่าลืมนะว่า.. ลุงแอริคเป็นฝรั่ง..นับถือคริสต์อยู่สวิสเซอร์แลนด์ไม่เชื่อเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น การอธิษฐานขอพุทธานุภาพ และการปฏิบัติตามหลักสูตรของพระพุทธเจ้านี้...สามารถพิสูจน์ได้จริงตามหลักวิทยาศาสตร์..ดั่งเคสของลุงแอริค..ซึ่งเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติได้จริงและประกาศให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ก่อนหน้า..ว่าจะปฏิบัติแล้วนะ..
.....ได้กราบเรียนแจ้งให้หลวงพ่อทราบแล้ว..เรื่องหัวใจ..เรื่องผลการรักษาในขั้นต้น..หลวงพ่อบอกว่าเพราะ ..เป็นเพราะลุงแอริคปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง..ท่านเพียงแค่แนะนำแนวทางของพระพุทธเจ้า..ว่าพลังพุทธานุภาพนั้นกำจัดทุกข์ กำจัดภัยได้จริง..เท่านั้น..ย้ำให้ลุงแอริค หายใจเข้าไปไว้ปฐวีธาตุ..ทรงลมไว้ให้นานที่สุด..และให้มองแล้วนำภาพก้อนมะเร็ง..ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาถึงอากาศธาตุ ทรงลม..จนทนไม่ไหวแล้วให้ปล่อยลมพร้อมนำภาพก้อนมะเร็งให้ลอยออกไปแล้วสลายหายไป..และเปล่งวาจาด้วยว่าออกไป..ต้องมองให้เห็นภาพชัดเจนทุกขั้นตอนทำพร้อมๆกัน แล้วทำบ่อยๆทำทั้งวันก็ได้...
....กราบขออนุโมทนากับความเมตตา ต่อกุศลผลบุญของหลวงพ่อ..ด้วยเจ้าค่ะ..สาธุสาธุสาธุ
...กราบขออนุโมทนากับพี่แอ๊ะกับลุงแอริค..ด้วยนะจ๊ะ ในผลของการปฏิบัติดีต่อสังคม ต่อพระพุทธศาสนาและที่สำคัญลุงแอริคปฏิบัติเองจึงได้เห็นผลที่ดีที่เกิดกับตัวเอง..
...และยังเป็นตัวอย่างของผู้ที่ท้อแท้..ทั้งที่ทำไม่ได้ ทำยังไม่เป็น และผู้ที่เจ็บป่วยไม่ว่าจะอยู่ในศาสนาไหนก็ตามสามารถปฏิบัติได้..เห็นผลได้จริง พิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์...ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ และกราบขออนุโมทนากับทุกรูป..ทุกนาม..ทุกท่าน..ด้วยค่ะ. (=^ェ^=)....~♥.
(ขอขอบคุณพี่แอ้ะและพี่หนูแหม่มในข้อมูลทั้งหมดนี้ด้วยนะคะ สาธุค่ะ)
_____________________________________________________________________________________________________________________
และขอข้ามมาปี2556เลยนะคะ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2556
พี่ใหม่ (รสา) ได้lineมาเล่าเหตุการณ์ที่ได้ประสบผลสำเร็จในการอธิษฐานให้อ่านดังนี้
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังจ๊ะ เมื่อ 2 วันที่แล้ว มีคนโทรศัพท์เข้ามาแล้วเขาสนใจตึกแถวที่แม่สอด แต่ต่อรองกันราคาไม่ลงตัว พี่เลยบอกไปว่า ให้กลับมากทม.ก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน เขาก็เลยนัดว่า วันอังคาร เขาจะเข้ามาคุย เมื่อวาน พี่ก็เลยสวดมนต์ และนั่งสมาธิ ตั้งลม (ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) แล้วก็นั่งนึกถึง 12.5 ล้าน ว่าขอให้สำเร็จให้เราได้ราคานี้น่ะ เมื่อเช้า พี่ยังไม่เข้าออฟฟิซ ไปวัดก่อน แล้วตอนขับรถมา เขาก็โทรมาเลย ไม่ต่อซักคำ ถามแค่พี่จะขายเท่าไหร่ พี่บอก 12.5 ล. เขาตอบตกลงเลย ไม่พูดอะไรเลย แค่บอกว่า แถมแอร์ด้วยน่ะ ขนาดพี่ยังงงเลย เพราะตอนแรกเขาค่อนข้างเขี้ยว แต่มาว่าวันนี้เปลี่ยนไปเลย แปลกมาก
....
อนิสงฆ์จากการนั่งสมาธิ ตั้งลม (งูๆปลาๆ) ด้วย และที่คิดไว้คือ ถ้าโครงการนี้เสร็จเรียบร้อย จะแบ่งกำไรส่วนที่ได้ เอาไปพัฒนาเด็กชาวเขา เรื่องทุนการศึกษาจ๊ะ
อธิษฐานไว้ว่า ขอให้สำเร็จน่ะ เพื่อจะได้นำเงินที่ได้ไปพัฒนาเด็กให้มีการศึกษาที่ดี เพราะส่วนใหญ่พวกนี้จะไม่ได้เรียนหนังสือ ที่แม่ฮ่องสอน น่าจะเยอะ
พี่อยากจะให้เป็นทุนการศึกษา แต่ยังไม่อยากบอกใครอ่ะ เพราะเอาให้เสร็จก่อน ให้มีเงินในมือ แล้วถึงหาเด็กๆ
ขอขอบพระคุณพี่ใหม่ที่กรุณาเล่าประสบการณ์จากการปฏิบัติ ให้พวกเราชนชาวพุทธได้รับรู้ว่า หากคุณตั้งใจฝึก ศึกษาและปฏิบัติ พวกเราทุกคนจักทำได้เช่นเดียวกัน และขอย้ำว่าในทางกุศลเท่านั้นนะคะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ
__________________________________
ส่วนนี่คือผู้ปฏิบัติแล้วได้ผลอย่างไร นำมาแบ่งปันให้ทราบกันค่ะ
26 สิงหาคม 2558
ขอให้ สาธุชนทุกท่านร่วมอนุโมทนา คุณJeep คุณอ๋อยและคุณเจี๊ยบ(Jeap) ที่ได้ให้ธรรมทาน ประสบการณ์รอดตายจากระเบิด ด้วยพุทธานุภาพ อันเป็นอานิสงค์จากการปฏิบัติ สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค เมื่อ 25 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา
ขอความเจริญผาสุขสวัสดี สมปรารถนา ก้าวหน้าในการปฏิบัติ จงมีแด่คุณเจี๊ยบ (Jeap) และ สาธุชนผู้อนุโมทนาทุกท่าน เทอญ
เจริญพร
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ ฯ การให้ธรรมทาน เหนือการให้ทั้งปวง
คุณเจี้ยบ
คุณดาบโอ๋
พระอาจารย์ : เพื่อเป็นกำลังใจของผู้ปฏิบัติยังไม่ได้ผล และขจัดข้อสงสัยของผู้ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติ ว่าเป็นไปได้จริงหรือ?
ประสบการณ์ของสมาชิกปฏิสัมภิทา ผลจากการปฏิบัติ สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค
พุทธานุภาพ เป็นของจริง พิสูจน์ได้ในการทุกเมื่อ
สำคัญขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ
คุณเจริญพร
*************************************
ตัวอย่าง...ผลจากการเข้าพิธีมหาพุทธานุภาพ ประจักษ์เห็นผลใน24 ชั่วโมง เพราะขณะทำพิธี "ใจ" เป็นสมาธิ
นี่คือบทพิสูจน์ว่า "บุญทำแล้วได้ผลเลย ไม่ต้องรอชาติหน้า".
คุณKeng
คุณภีม
คุณจิ้บ
ขายที่ดิน
คุณหมอพจ
หลังจากนั้น
ขอเจริญพรแก่สาธุชน ร่วมอนุโมทนา ในความก้าวหน้าของผู้ปฏิบัติชอบในพุทธวิถี "สติปฎฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" ขั้นต้น ได้สำเร็จ
ผู้ถึงพร้อมในพุทธานุภาพ วาจา+ใจ (สวดมนต์) ย่อมเกิดเป็นพลังอันเรียกว่า "ปริกมฺมจิต" ส่งผลให้ปวงเทพยดา อนุโมทนา"บุญ" อันสำเร็จแล้วด้วย "ใจ" ได้รับผลทันที ไม่ต้องรอไปรับชาติหน้า ของจริงต้องพิสูจน์ได้ ไม่จำกัด กาล และ สถานที่
ด้วยกุศลที่ผู้ปฏิบัติได้เผยแผ่ธรรมทานนี้ ขอความเจริญก้าวหน้า ในการปฏิบัติ สมปราถนาในสิ่งอันเป็นกุศล จงสัมฤทธิผลโดยพลัน พร้อมด้วยสาธุชนทุกท่านที่ร่วมอนุโมทนา นี้เทอญฯ
ตามตัวอย่างที่นำมาให้อนุโมทนา นั้นเป็นผลอันเกิดจากการปฏิบัติ ให้ "วาจา กับ ใจ ถึงพร้อม" โดยฝึกจากการสวดมนต์ (นี่คือเคล็ดลับที่บรรพบุรุษไทย ได้ถ่ายทอดให้ลูกหลานเหลนโหลน สวดมนต์) เรียกว่า "ปริตตะ"
ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในความแตกต่าง ระหว่างผู้สวดมนต์(อย่างถูกวิธี) กับผู้ไม่สวดมนต์ หรือสวดผิดวิธี จะไม่ได้ผล
วิธีการสวดมนต์ให้ได้ผล นั้น ให้สวดตามเสียงบทที่เปิดไปด้วย เพื่อให้วจีสังขาร(ปาก) กับ มโนสังขาร(ใจ=เสียงในใจ) พร้อมกัน เพราะใจ มีสภาพอย่างเดียวกันกับเทวดา=อนิทัสนสัปปติ(Plasma) เทวดาจึงรับรู้ได้ มนุษย์อยู่ภูมิเดียวกับเทวดา เรียกว่า "กามาวจรภูมิ" จึงสื่อสารกันได้ (ด้วยภาษาใจ) เทพยดาจึงอนุโมทนาเราได้ แต่ถ้าสวดแต่ออกเสียง ไม่พร้อมใจ สวดเหนื่อยเปล่าไม่ได้จะไม่ได้ผล
เมื่อปาก+ใจ พร้อมกันจะเป็นสภาวะทางอภิธรรมเรียกว่า "ปริต=ปริตารมย์" ในทางปฏิบัติเรียกว่า"ปริกมมฺจิต" จึงมีอานุภาพ สามารถสื่อสารเทวดาได้ จึงใช้ตรงส่วนอารมณ์นี้สื่อสารกับเทวดา จะรับรู้ได้
และเมื่อพร้อมด้วย วาจา+ใจ เราก็เปล่งวาจาถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา เรียกว่าถึงพร้อมด้วย จาคะ(ถึงพร้อมด้วยมหาทาน) การที่วาจา+ใจพร้อมเป็นหนึ่งเดียวกัน อารมณ์นี้เป็นอารมณ์สมาธิที่ตั้งมั่นอยู่ เรียกว่า "ทะมะ(การทรงอยู่ด้วยอารมณ์เป็นหนึ่ง) เมื่อวาจา+ใจ ตรงกันการเปล่งวาจา จึงเป็นสัมมาวาจา จัดเป็น "สัจจะวาจา".
ทั้ง3นี้ คือ สัจจะ ทะมะ จาคะ เป็นองค์แห่ง"อธิษฐาน" ดังนั้น เพียงแต่ "ระลีกอารมณ์ที่สวดมนต์" หรือ "เปล่งวาจา สิ่งที่ปราถนา" . เทวดาก็รับรู้ และจัดมาให้ สมดั่งปราถนา ดั่งนี้
คุณจิ้บ
คุณ ดร เบญจา
น้องมิ้นท์
************************************************************
***************************************************************************
สัจจะ จาคะ ธรรมะ คือ องค์แห่งการอธิษฐาน
คุณทวีพร
สัจจะ จาคะ ธรรมะ คือ องค์แห่งการอธิษฐาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีขึ้นในโลกไม่ได้ถ้าปราศจากการ "อธิษฐาน"
พระพุทธศาสนาจะสืบต่อเนื่องมาไม่ได้ถ้าขาดเสียซึ่งการอธิษฐาน ดังนั้น "อธิษฐาน" คือ หัวใจของพระพุทธศาสนา แม้แต่สังฆกรรมของพระสงฆ์ก็สำเร็จโดยการอธิษฐาน เช่น อธิษฐานพรรษา, อธิษฐานผ้ากฐิน, อธิษฐานบริขาร ฯลฯ
การอธิษฐาน จึงมีวิถีแห่งการปฏิบัติโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จประจักษ์ผลจริงอย่างเป็นรูปธรรม สัมผัสแตะต้องได้ รวมพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้โดยไม่ขัดแย้งกัน.....
ขออนุโมทนา คุณทวีพร ที่ได้ให้ประสบการณ์ในการปฏิบัติตามพุทธวิถี "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" อันเป็นประโยชน์แก่สาธุชนผู้ใฝ่ปฏิบัติชอบ ขออัญเชิญเทพยดาทุกชั้นฟ้า ร่วมอนุโมทนามัย อวยพรจับให้บังเกิดความเจริญก้าวหน้าในธรรม-ปฏิบัติ ชีวิต ธุรกิจ การงาน สมปรารถนาทุกประการ ในกาลทุกเมื่อ จงปรากฏผลโดยพลัน ดั่ง "ใจ" อธิษฐาน แก่คุณทวีพรฯ และสาธุชนผู้ร่วมอนุโมทนานี้ ทั่วกันทุกท่านเทอญ
อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านในที่นี้ที่ได้เอ่ยนามและไม่ได้เอ่ยนาม ขอขอบพระคุณค่ะที่อนุญาตให้นำเรื่องราวมาเผยแผ่ต่อสาธารณะชนทั่วไป
ตัวอย่างมีเยอะแยะมากมายแต่ได้ยกมาตรงนี้เฉพาะที่เป็นหลักส่วนใหญ่ที่มวลมนุษย์ทั้งหลายต้องการจะประสบความสำเร็จในชีวิต ให้เป็นกำลังใจในการเพียรปฏิบัติ(สวดมนต์ปากกับใจตรงกัน) สาธุค่ะ