ความสำคัญของการฝึก ปาก กับใจ ให้ตรงกัน. (คำสอนพระอาจารย์ธรรมบาล 13 มีนาคม 2558)



แทบจะทุกท่านที่ได้เข้ามาศึกษา ปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" อาจไม่เข้าใจ หรือสงสัย ถึงความสำคัญของการฝึก ปาก กับใจ ให้ตรงกัน  ว่า เหตุใด และทำไมจึงเน้นย้ำว่า  "สำคัญที่สุด" เหนืออื่นใด จึงขอขยายความให้กระจ่าง เพื่อเป็นแนวทางแห่งการศึกษาค้นคว้า  สำหรับสาธุชนทุกท่าน ดังนี้


.... Buddhism, Whoever desires to study and practice the Dhamma may do so without having to profess first the Buddhits religion, will help to demonstrate that it is "Truth" that will be beneficial and bring happiness in the present life.


พระพุทธศาสนา, ใครจะมาศึกษาปฏิบัติก็ได้ ทั้งนั้น โดยไม่ต้องมานับถือก่อน, ทั้งนี้เพราะแสดงธรรมที่เปิดทางให้พิสูจน์ได้ว่าล้วนเป็น "สัจจะ"(ความจริง) ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน.


The essence of entire Buddhist teachings lines in the Noble Truths.

Noble Truth(Ariya-Sacca) is shot for

     "Truth of the ones (or of those who have attained a high degree of advancement)",
     " Truth attainable by the noble ones",
     " Truth by which one is ennobled".


สัจจะ  ถือเป็น หลักสำคัญอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา คือ "อริยสัจจ"

      อริยสัจจ์ หมายความว่า...
      สัจจะของผู้ประเสริฐ (หรือ ผู้ที่ได้รับการพัฒนาจนเจริญแล้ว) หรือ
      สัจจะที่ผู้ประเสริฐพึงต้องรู้ หรือ
      สัจจะที่ทำให้เป็นผู้ประเสริฐ"

หากจำกัดความหมายให้กระชับสั้น ๆ ก็คือ สัจจะอันประเสริฐ
นี่คือคำตอบ และคำอธิบายว่า "เหตุใด ผู้ปฏิบัติ  สติปัฏฐาน-สติสัมภิทามรรค จึงมีความสำคัญ ที่จะต้องเริ่มต้นด้วย "สัจจะ" ก่อนอื่นใด


การจะเกิด "สัจจะวาจา" ได้นั้น  จะต้องกระทำโดยการ "ถึงพร้อมด้วย วจีสังขาร=ปาก + มโนสังขาร=ใจ "


.... พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจนว่า "ปลูกพืชเช่นใด  ย่อมได้รับผลเช่นนั้น" การเริ่มต้นด้วยสัจจะ คือการปลูกเมล็ดของ "ความจริง(สัจจะ)"  ลงไป เพื่อที่จะก้าวไปสู่ "สัจจธรรม = การดำรงอยู่ด้วยความสุข อันประเสริฐอย่างจริงแท้ ที่ไม่แปรเปลี่ยน ด้วยเวลา สถานที่ ภพภูมิ ไม่ว่า มรณะ โศกปริเทวะ ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง จะแทรกเข้าไปได้ ซึ่งเป็นสภาวะความสุขเหนือสุขใดๆ จะเปรียบปานได้ เป็นสภาพแห่งความสุขจริงแท้อันประเสริฐ นั่นคือ  "พระนิพพาน"


.... แม้ในการเริ่มต้น ของเส้นทางสู่พระนิพพาน ผู้ปฏิบัติย่อมต้อง "ได้รับ ประสบสุข และสิ่งประเสริฐ"  ด้วยอำนาจพลังแห่ง "สัจจะบารมี" อันบังเกิดขึ้นด้วย "มหัคคจิต" ทั้ง ๒๗ ดวง ซึ่งผู้ปฏิบัติ ได้เปล่งสัจจะวาจา (ปาก+ใจ) นั้น


จึงกล่าวได้ว่า  ผู้ได้เข้าสู่พุทธวิถีปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" ย่อมพบสุขแต่เริ่มต้น  สุขในท่ามกลาง และ สุขอย่างหาสุขใดเปรียบมิได้ในที่สุด คือ พระนิพพาน .... ชีวิตของผู้ปฏิบัติจะเปลี่ยนแปลง พรากพ้นจากอุปสรรค ความทุกข์ ความโศกเศร้าทั้งปวง ได้ "จริงแท้"  เพราะได้เพาะ "เมล็ดความประเสริฐ" ของมนุษย์และเทวดา คือ "สัจจะ" ไว้นับแต่การฝึก ปาก+ใจ แต่เบื้องต้นนั้นเอง


ตัวอย่าง อำนาจแห่ง "สัจจะวาจา" ที่เปลี่ยนฐานะของมนุษย์ธรรมดา ให้กลายเป็น "ผู้ประเสริฐ" ....ปรากฏเป็นหลักฐานสัมผัสแตะต้องได้ในโลกยุคปัจจุบันของชาวพุทธ ก็คือ  "ผู้ที่ เข้ามาอุปสมบทเป็น พระสงฆ์"


รายละเอียด เป็นอย่างไร  เราจะต่อกันในวันพรุ่งนี้


ขอความผาสุขสวัสดี  จงมีแด่สาธุชนทุกท่าน ถ้วนทั่วกันเทอญ  เจริญพร



สัจจะ และ อธิษฐาน

power of sound







สารบัญทั้งหมดจะอยู่ทางด้านขวามือของหน้า (ทุกหน้า) เวอร์ชันสำหรับเว็บ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS