การตั้งลม (คำสอนพระอาจารย์ธรรมบาล 15 พฤษภาคม 2558)



ขอความผาสุขสวัสดี จงบังเกิดมีแด่ สาธุชนผู้ใฝ่ในกุศลปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" ทุกท่าน

นับว่าเป็นโชค ที่เราท่านสมาชิกปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ได้เกิดมาเป็นชนชาติไทย และได้พบพระพุทธศาสนา ที่เป็นบรมโชคเหนืออื่นใด ก็คือ ได้ศึกษาปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" อันเป็นหนทางเดียวไม่มีทางสายอื่น อันจักพาเราพ้นจากความทุกข์ โทมนัสทั้งปวง

    แม้ผู้เพียงเริ่มปฏิบัติ ก็จักได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ แห่งพุทธานุภาพ ได้รับความสุขใจ สุขกาย ปราศจากโรคภัยทั้งปวง อย่างที่แตะต้อง พิสูจน์เป็นPhysical  ได้ทันที

เมื่อกล่าวถึงการปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ "การตั้งลม" ซึ่งเปรียบเสมือน "ชีวิต" ของการปฏิบัติ หากปราศจากเสียแล้ว ซึ่ง "การตั้งลม" การปฏิบัติทั้งหลายทั้งปวง ก็จะไม่ได้ผลด้วยประการทั้งปวง

        จะกล่าวไปใยในการเข้าถึงนิพพาน เพราะแค่ "การตั้งลม" ขั้นต้นยังทำไม่ได้ ก็ข้ามภพภูมิไม่ได้ เนื่องจากการ "ตั้งลม" เป็นสภาวะที่ "เหนือโลก" เกือบจะเรียกได้ว่า "สามารถควบคุม สมมุติให้ อยู่ในอำนาจได้"

      ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่า เหตุใด ผู้ที่ "ตั้งลม" ได้ จึงสามารถอธิษฐานได้ดั่งใจปรารถนา ตามภาพที่ได้กำหนดไว้ ณ ตำแหน่ง "ตั้งลม" ทุกประการ

เรื่องของการ "ตั้งลม" ที่ลึกลงไปตรงปถวีธาตุ พระพุทธองค์ทรงถ่ายทอดวิธีปฏิบัติมากว่า 2558 ปี ว่ามีอานิสงค์มากมายมหาศาลสุดพรรณา

วันนี้จะขอยกตัวอย่างทางการแพทย์ต่างประเทศ ที่ได้พิสูจน์ และยอมรับว่า "การหายใจลึก และหยุดไว้"(ตั้งลม) สามารถ รักษา- ป้องกัน ได้ดีกว่าการทำ "คีโม" ดังนี้ :-
  
สิ่งที่คุณ ไม่เคยคาดคิด มาก่อนเลยว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ(Cancer is Natural)

มะเร็ง คือ ธรรมชาติในการปรับตัว ของเซลล์ อันเนื่องมาจาก การที่เลือดของเรา กลายเป็นพิษ เกินกว่าที่ เซลล์จะมีชีวิต ต่อไปได้

ถ้าหาก เซลล์เหล่านั้น ไม่ปรับตัว เซลล์เหล่านั้น จะป่วย และตาย ดังนั้น เซลล์เหล่านั้น จึงตอบสนอง อย่างเป็น ธรรมชาติ ด้วยการผ่าเหล่า เพราะเซลล์ ในร่างกายมนุษย์ มีความสามารถ ที่จะปรับตัว เพื่อรับมือกับ การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว ของเซลล์ จึงเป็นสิ่ง ที่เป็นธรรมชาติโดยปกติอยู่แล้ว

แต่เป็นที่ น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า คุณหมอทั่วโลก กลับบอกกับเราว่า วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย-คีโม หรือ การทำลาย เซลล์มะเร็ง ด้วยรังสี แต่สิ่งที่คุณหมอเว้นวรรค(อุบ)ไว้  ไม่ได้บอกเราคือ สาเหตุที่ ทำไมเซลล์มะเร็ง จึงเกิดการผ่าเหล่าตั้งแต่แรก ?

อย่างไรก็ตาม- เมื่อสภาพแวดล้อม เปลี่ยนไป เซลล์อีกจำนวนมาก ก็จะผ่าเหล่า- ต่อไปอีก-ไม่เร็วก็ช้า นั่นเป็นสาเหตุ ที่เราพบเห็น คือ ผู้ป่วยมะเร็ง ถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุด ลงไปใหม่อีก และในที่สุดก็ตายทุกราย ภายหลังจากที่ทำคีโมได้ไม่นาน

จากมุมมอง ของเซลล์ หากมัน ไม่ผ่าเหล่า-มันจะต้องตาย การผ่าเหล่า ของเซลล์ จึงเป็นธรรมชาติ 

มะเร็ง แท้จริงแล้ว คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายามรอดตาย จากสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้น ลงเอยด้วยการ- ฆ่าร่างกาย แต่นั่นกลับ ไม่ใช่ประเด็น ที่แท้จริง

มะเร็ง คือ วิวัฒนาการ ของกลุ่มเซลล์ ที่พยายาม จะรอดตาย ในสภาพแวดล้อม ที่เป็นพิษอย่างสูง เราต้องพยายาม ทำความเข้าใจ ในประเด็นนี้ ให้ชัดเจน 

การพยายามฆ่า เซลล์เหล่านั้น -โดย ไม่ได้เปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อม เปรียบได้กับ การฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายาม ที่จะนำเอาขยะออกไป เพราะขยะต่างหากที่เป็นตัวส่งกลิ่นเรียกแมลงวัน

เอาละ เมื่อเข้าใจต้นสายปลายเหตุของมะเร็งกันแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะได้เริ่มรักษาตัวคุณอย่างถูกวิธีและได้ผลเกินร้อย คุณจะมัวรออะไรอยู่อีก ที่จะปรับปรุง สภาพแวดล้อมให้กับเซลล์ใน ร่างกายของคุณ ได้อย่างรวดเร็ว  คือ :-

::: หายใจลึกๆ - แล้วหยุดไว้ :::

สิ่งแรกที่กระตุ้น ให้เซลล์ผ่าเหล่า และ กลายเป็น เซลล์มะเร็ง คือ การขาดออกซิเจน

เซลล์มะเร็ง ปรับตัวเพื่อรอดชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ ยิ่งมีออกซิเจน ต่ำเท่าไร เซลล์มะเร็ง ก็ยิ่งเติบโต ได้มากขึ้นเท่านั้น
เพราะนี่คือ วิวัฒนาการ ของเซลล์ ที่ปกติต้องการ จะรอดชีวิต อยู่ได้ ในสภาพแวดล้อม ที่มีระดับ ออกซิเจนต่ำ

- วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ ซึ่งเป็นการ ออกกำลังง่ายๆ เพื่อเพิ่ม ระดับออกซิเจน ให้กับเลือด

การหายใจ ให้เข้าไปหยุดอยู่ในท้อง ไม่ใช่หายใจ เข้าไปแค่ในทรวงอก นี่คือวิธีการหายใจ ที่ถูกต้องจะช่วยให้เซลล์มะเร็ง ชะลอการกลายพันธุ์ ได้แน่นอนกว่าการทำ "คีโม"

::: เรียบเรียงจาก วารสารการแพทย์ Shafin de Zane presents: What is Cancer?


สิ่งหนึ่งที่บทความทางการแพทย์นี้ไม่ได้บอกคือ " ไม่ได้รับรองว่าหายจากโรคมะเร็งได้เด็ดขาด" ตรงนี้แหละที่เราท่านที่ปฏิบัติในวิถีแห่งสติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค เหนือกว่าแพทย์ปัจจุบัน คือ "หายขาดจากโรคมะเร็ง ได้ด้วยพุทธานุภาพ" ที่ฝรั่ง หรือสำนักไหนไม่มีสอน

   จะเห็นได้ว่า "การตัั้งลม" ที่สมาชิกปฏิสัมภิทา ที่ได้ฝึกวิธีหาใจไปแล้ว ก็แน่นอนใจได้เลยว่า "เซลล์จะไม่กลายพันธุ์" นี่ว่ากันทางการแพทย์ คือ จะไม่เป็นมะเร็ง


ว่ากันตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา "มะเร็ง ไม่ใช่โรคระบาด โรคระบาดจะเรียกว่า สาธารณกรรม คือ ใคร ๆ ก็ต้องรับ เช่นแผ่นดินไหว หรือโรคติดต่อร้ายแรง" 

เมื่อ มะเร็งไม่ใช่โรคระบาด มะเร็งจึงเป็นโรคที่ "เกิดจากอกุศลกรรม" ที่แสดงผล ดังนั้นการรักษามะเร็งให้หายขาด ก็คือ ไม่ให้อกุศลกรรมแสดงผล โดยการสร้าง "บุญ"

"ไม่มีบุญใด ที่จะมีกุศล(ผลของบุญ) ยิ่งใหญ่ไปกว่าการปฏิบัติสติปัฏฐาน แม้จะสร้างเจดีย์ทองคำ จากโลกมนุษย์ถึงดวงจันทร์ ยังไม่เท่า "กาย วาจา ใจ ถึงพร้อม เป็นสมาธิชั่วหนึ่งอึดใจ"
ฉะนั้น ผู้ที่ปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" สามารถที่จะให้ กาย วาจา ใจ ถึงพร้อม และ "ตั้งลม" ตามปรารถนา ซึ่งแน่นอน ต้องมากกว่า 1 อึดใจ 


     เมื่อเทียบบัญญัติไตรยางค์ ก็ต้องได้บุญมหาศาล ยิ่ง "ถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา" ก็ประกอบเป็นมหากุศล เพราะประกอบด้วย ถวายชีวิต(ทาน)  สัจจะวาจา(ศีล) ตั้งลม(ภาวนา)


     ดังนั้น อกุศลกรรม ที่ทำให้เกิดเป็น "มะเร็ง" ก็ไม่อาจแสดงผลได้อีกต่อไป ผู้ปฏิบัติ "สติปัฏฐาน-ปฏิสัมภิทามรรค" จึงหายจากโรคร้าย  ด้วยประการฉะนี้ 


ที่นำมาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้ท่านทั้งหลาย ได้ภาคภูมิใจ ที่ได้ปฏิบัติชอบ ในหนทางอันประเสริฐ ที่พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่า เป็นหนทางเดียว ...เอกมคฺโค ..หนทางอื่นไม่มี ฯ


ขอความผาสุขสวัสดี สมปรารถนา ก้าวหน้าในกิจการ ครอบครัว ชีวิต ธุรกิจ การงาน จงทุกประการ ทุกท่านในกาลทุกเมื่อเทอญ ฯ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS